เรมิงตัน 700 ADL
ไรเฟิลสปอร์ต .308

หน้าทดสอบปืนไรเฟิลของ อวป. พยายามจะหาปืนใช้งานมาทำการทดสอบ สลับฉากกับปืนแบบที่สร้างมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ถึงแม้ว่าระบบกฎหมาย ตลอดจนสภาพแวดล้อมในบ้านเราจะทำให้การถือปืนไรเฟิลเข้าป่ากลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายไปโดย สมบูรณ์แบบแล้วก็ตาม แต่ท่านผู้อ่าน อวป. ส่วนหนึ่งก็ยังมีความสนใจอยู่กับปืนไรเฟิลแบบสปอร์ต ซึ่งเป็นปืนแบบที่ออกแบบมาสำหรับการล่าสัตว์โดยตรง แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าคนที่ซื้อปืนแบบ สปอร์ตอีกมากมายที่ไม่เคยคิดจะใช้ปืนกระบอกนั้นไปยิงสัตว์เลย ผมพบผู้ใหญ่ หลายท่านที่เคยขอให้ร้านปืนสั่งปืนไรเฟิลขนาดแปลกๆ อย่างเช่น .416, .338 หรือว่า 9.3 มม. เข้ามาโดยไม่สนใจเรื่องกระสุนปืนที่จะมาใช้กับตัวปืน แสดงว่าท่านซื้อปืนไว้เก็บสะสมเท่านั้นเอง


ภาพเต็มของเรมิงตัน 700 ADL สต๊อกไม้วอลนัทแท้

โรงงานเก่าแก่อย่างเรมิงตันผลิตปืนไรเฟิลออกมาทุกแบบตั้งแต่ปืนแข่งขันแบบ มาตรฐานสากลในรุ่น 40XC ปืนแข่งพาดแท่น แบบ 40XB BR ปืนสไนเปอร์เกรดสูงสำหรับ กองทัพบกสหรัฐฯ อย่างเช่น M24 SWS หรือว่าปืนสไนเปอร์มาตรฐานในรุ่น 700P ที่สมัยก่อน ทำเฉพาะขนาด .223 กับ .308 แต่เดี๋ยวนี้ ยังเพิ่มขนาด .300 วินฯแม็กฯ, 7 มม.เรฯ แม็กฯ กับ .300 เรฯ อัลตร้า แม็กนั่ม และยังได้ข่าวว่าจะเพิ่มขนาด .338 อัลตร้า ซึ่งมีอานุภาพดุดันพอๆกับ .338 ลาปัวอีกด้วย

ส่วนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ของเรมิงตัน หลักๆ พอจะแบ่งได้ 3 แบบก็คือ ปืนแบบวาร์มินท์ ลำกล้องหนาหนัก สำหรับการพาดยิงในระยะไกลซึ่งเป็นปืนสำหรับกำจัดสัตว์ ขนาดเล็กรบกวนพืชไร่ ซึ่งตามปกติแล้วความที่ปืนแบบนี้มักจะใช้กับสัตว์เล็กจึงใช้
กระสุนขนาดเล็ก อย่างเช่น .223 เรฯ, .22-250 เรฯ หรือ .243 วินฯ เต็มที่ก็ไม่เกิน
.308 วินฯ แต่ถ้าต้องการปืนในสไตล์วาร์มินท์แต่ใช้กระสุนแม็กนั่ม กับอภิมหาแม็กนั่ม เรมิงตันก็ยังมีรุ่นเซนโดโร่ (Sendoro) ให้ใช้ในขนาด .300 วินฯแม็กฯ กับ 7 มม. อัลตร้าแม็กนั่มอีกด้วย สำหรับปืนล่าสัตว์แบบลำกล้องบางอีก 2 แบบก็คือ
ปืนแบบ BDL และแบบ ADL


ห้ามไกตามมาตรฐานเรมิงตัน ผลักไปข้างหน้าเป็นจังหวะยิง

ฝั่งนี้เป็นอุปกรณ์นิรภัย ตาม กฎหมายใหม่ของอเมริกัน

ปืนแบบ BDL จะถือเป็นปืนเกรดสูง ใช้ไม้วอลนัทคัดลาย เคลือบอีพ็อกซีเป็นมันวาว และใช้ซองกระสุนแบบเปิดท้องเทกระสุนปืนภายในออกมาได้ (Hinged-magazine floorplate) ส่วนปืนแบบ ADL จะมีรูปร่างเหมือนกับ BDL ทุกอย่าง เพียงแต่ใช้ไม้เกรดรองลงมา และซองกระสุนเปิดท้องไม่ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ที่จริงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญอะไรมากนัก

ปืนในตระกูล BDL ยังแตกลูกหลานออกไปได้อีกหลายรุ่นอย่างเช่นในรุ่นอลาสกัน ก็จะเป็นปืนที่ใช้กระสุนขนาดเหมาะสมกับการล่าสัตว์ในแถบอลาสก้าที่มีขนาดตั้งแต่ 7 มม. เรฯแม็กฯ ขึ้นไปจนถึง .375 H&H และในปี 2001 นี้ยังแถมด้วยกระสุนอภิมหาแม็กนั่ม .375 อัลตร้าแม็กนั่ม แล้วถ้าเป็นปืนในรุ่นซาฟารีก็จะเป็นขนาดอื่นไปไม่ได้ นอกจาก .375 H&H, .375 อัลตร้าแม็กนั่ม, .416 เรฯแม็กฯ และ .458 วินฯแม็กฯ

นอกจากของหนักๆ แล้วยังมีปืนแบบน้ำหนักเบาเป็นพิเศษในแบบเมาน์เทนไรเฟิล ซึ่งมีน้ำหนักประมาณหกปอนด์ครึ่ง ซึ่งออกแบบมาสำหรับการล่าสัตว์ในแถบภูเขา ซึ่งนักล่าสัตว์มีความจำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนักสัมภาระให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไหนจะต้องสู้กับแรงดึงดูดของโลกตอนไต่ขึ้น แถมยอดเขาสูงๆ ยังมีอากาศบางเสียอีก เหนื่อยน้อยก็กลายเป็นเหนื่อยมาก เพราะไล่งับอากาศไม่ทัน แต่ที่ว่าปืนเบาๆ นี่ หมายถึงเฉพาะน้ำหนักปืนนะครับ ไม่เกี่ยวกับคาลิเบอร์ เพราะเมาน์เทนไรเฟิลทำออกมาใน 13 คาลิเบอร์ตั้งแต่ .270 วินฯขึ้นไปจน ถึง .375 H&H, 7 มม. อัลตร้าแม็กนั่มและ.375 อัลตร้าแม็กนั่ม

ถ้าปืนแบบเมาน์เทนไรเฟิลยังน้ำหนักเบาไม่พอ เรมิงตันยังมีปืนโมเดล 700 ไทเทเนียม
ลำกล้อง 22 นิ้วที่มีน้ำหนักเพียงห้าปอนด์สี่ออนซ์ในรุ่นชอร์ตแอ๊คชั่นกับ ห้าปอนด์ครึ่งในรุ่นลองแอ๊คชั่นให้ใช้อีกด้วย แต่ปืนรุ่นไทเทเนียมไม่ทำใช้กับกระสุนแม็กนั่ม จึงมีกระสุนให้เลือกเฉพาะ .260 เรฯ (6.5 มม.-08) และ 7 มม.-08, ในรุ่นชอร์ตแอ๊คชั่น
กับ .25-06 เรฯ, .280 เรฯ และ .30-06 สปริงฟิลด์ ในรุ่นลองแอ๊คชั่น เท่านั้นเอง


วิธีใช้ก็คือใช้กุญแจที่แถมมา พร้อมปืนสอดเข้าไปแล้วไข ถ้าจุดที่ชี้เป็น สีแดงก็เป็นจังหวะที่ปืนยิงได้ ถ้าเป็นสีขาวก็แสดงว่ากำลังล็อกเข็มแทงชนวน


ตอนนี้เราไขกุญแจมาที่ตำแหน่งล็อก แล้วลองบิดท้ายเข็มฯเลียนแบบปืนตอนที่ยิง
ออกไปจริงๆจะพบว่าเข็มแทงชนวน
เดินหน้าไปได้หน่อยเดียวก็ถูกจับไว้แบบนี้

นวัตกรรมใหม่ที่เรมิงตันเพิ่งจะนำเสนอออกมาเมื่อปีที่แล้วก็คือระบบจุดระเบิดด้วยไฟฟ้า
แบบอี-ทรอนเอ๊กซ์ (EtronX) อย่าไปนึกถึงระบบไกไฟฟ้าที่ใช้ในปืนไรเฟิล แบบบูลพัพหรือปืนสั้นยิงช้านะครับ ปืนพวก นั้นยังใช้กระสุนแบบธรรมดา เพียงแต่ใช้ไกปืน ทำหน้าที่เป็นสวิตช์ไฟฟ้า จ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับขดลวดโซลินอยด์เพื่อปลดเซียร์ปล่อย เข็มแทงชนวนเท่านั้นเอง แต่สำหรับระบบ อี-ทรอนเอ๊กซ์ของเรมิงตันจะเป็นระบบเดียว กับการจุดระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ คือต้องใช้ไพรเมอร์พิเศษซึ่งจุดระเบิดด้วยกระแส ไฟฟ้าแทนที่จะเป็นแรงกระแทกเช่นเดียวกับไพรเมอร์ธรรมดา ทำให้อี-ทรอนเอ๊กซ์ของ เรมิงตันต้องการระบบจุดระเบิดแบบพิเศษตามไปด้วย คือไม่ใช้เข็มแทงชนวน แต่จะเป็น แท่งอิเล็กโทรดจิ้มเข้าไปข้างในไพรเมอร์ เมื่อเหนี่ยวไก แผงวงจรไฟฟ้าในพานท้ายปืน จะจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงเข้าไปจุดระเบิดไพรเมอร์ภายในเวลาเพียง 2.7 ไมโคร เซกันด์ (0.0000027 วินาที) ตัวเลขนี้มาจากความเร็วของแสง (ไฟฟ้ากับแสงวิ่งเร็วเท่ากัน) คูณด้วยความยาวของสายไฟในระบบทั้งหมด

ระบบจุดระเบิดอี-ทรอนเอ๊กซ์มีข้อดีที่จุดระเบิดได้นิ่มนวลมากเพราะไม่ใช้เมนสปริงแข็งๆ นอกจากนั้นยังจุดระเบิดได้รวดเร็วกว่าระบบจุดระเบิดด้วยสปริงเข็มแทงชนวนของ ปืนลูกเลื่อนที่จุดระเบิดได้เร็วที่สุดในโลก เกือบห้าพันเท่า !!! อันนี้ไม่ได้ซี้ซั้วเชื่อตามที่ ฝรั่งโม้มานะครับ แต่ปืนลูกเลื่อนที่จุดระเบิดได้เร็วมากๆ อย่างเช่นปืนแข่งขันของอันชูตส์ นั้นจะใช้เวลาจุดระเบิดประมาณ 19 มิลิเซกันด์ แล้วที่รุ่นพิเศษจริงๆ คือใช้เข็มแทงชนวน ที่ปาดเนื้อเหล็กออกเหลือบางเฉียบ ยิงแห้งสามสี่ทีเข็มหักอะไรแบบนี้ก็จะลดเวลา จุดระเบิดลงไปเหลือ 13 มิลิเซกันด์ (0.013 วินาที) ซึ่งพอเอาตัวเลขมาหารกันแล้วยัง
ช้ากว่าอี-ทรอนเอ๊กซ์ร่วมๆ ห้าพันเท่า

พูดถึงข้อดีของอี-ทรอนเอ๊กซ์มายืดยาว แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ที่เห็นชัดๆ ก็มีสองข้อ คือ เรื่องกระสุน เพราะถึงจะใช้คาลิเบอร์ธรรมดา (.220 สวิฟท์, .22-250 เรมิงตันและ .243 วินเชสเตอร์) แต่ก็ซื้อกระสุนทั่วไปเอามาใส่ยิงไม่ได้ ต้องใช้กระสุนพิเศษที่ใช้ไพรเมอร์แบบ
อี-ทรอนเอ๊กซ์เท่านั้น ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือราคายังแพงมาก เรียกว่าแพงกว่า 40-X รุ่นที่แพงที่สุดเสียอีก แต่ถึงแพงยังไงคนไทยก็ยังสู้ คุณติ่งเจ้าของร้านปืนเพ็ญจันทร์ กระซิบว่ามีออร์เดอร์มาแล้วสองกระบอก ของจริงมาถึงเมื่อไหร่จะหาทางเอามาแนะนำให้รู้จักกัน

กลับมาถึง 700 ADL กระบอกนี้กันดีกว่า ถึงจะเป็นปืนไรเฟิลโมเดล 700 ธรรมดาๆที่สุดในซีรีส์นี้ก็ตาม แต่ที่เราเอามาทดสอบในฉบับนี้ก็เพราะว่า 700 ADL เท่าที่ผ่านมามักจะเป็นแบบสต๊อกพลาสติกสีดำธรรมดาพื้นๆ ไม่ได้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ มีโครงอะลูมินั่มอย่าง 700P ด้วย แต่สำหรับ 700 ADL กระบอกนี้กลับใช้สต๊อกไม้วอลนัทแท้ ลายไม้สวยพอเอาออกงานได้เลย และปืนกระบอกนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่ติด อุปกรณ์นิรภัยพิเศษที่เรมิงตันเรียกว่า ISS (Intregrated Security System) มาด้วย

กระสุนวินเชสเตอร์ ซิลเวอร์ทิป 150 เกรน หัวเบา ความเร็วสูง กลุ่มอยู่สูงกว่า เรมิงตันหัวอ่อน คอร์ล็อก 180 เกรน แต่วัดกลุ่มกระสุนได้ใกล้เคียงกัน ไปยิงทดสอบที่สนาม ยิงปืนค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี ระยะ 100 เมตร วันนั้นลอง ไม่ใช้โต๊ะยิง ทดสอบเหมือนเคย แต่ใช้วิธีวางแท่นพาดกับ กระบะท้ายรถ โดยเอาผ้ายางปูพื้นรองไว้ก่อน แท่นจะได้อยู่นิ่งๆ ใครจะจำไปใช้บ้าง ไม่สงวนลิขสิทธิ์

อุปกรณ์ ISS อันนี้มีหลักการคล้ายๆ กับที่ติดมากับปืนลูกซองที่เราเคยทดสอบมาแล้ว สำหรับของปืนลูกซองนั้น เรมิงตันติดไว้ที่ตุ่มห้ามไก วิธีใช้ก็คือเข้าห้ามไกแล้ว สอดกุญแจเข้าไปบิดล็อก แล้วถอดกุญแจออกมาเก็บไว้ ปืนกระบอกนั้นจะปลดห้ามไกไม่ได้ ก็เท่ากับยิงไม่ได้นั่นเอง ส่วนของปืนลูกเลื่อน 700 ADL กระบอกนี้ระบบ ISS จะอยู่ที่ลูกเลื่อน หลักการคล้ายๆกันก็คือสอดกุญแจเข้าไปบิดในจังหวะที่ปืนขึ้นลำหรือ ถอดลูกเลื่อนออกจากตัวปืนแล้วบิดล็อกเข็มแทงชนวนของปืนกระบอกนี้จะถูก ISS ล็อกเข็มแทงชนวนเอาไว้แน่น ทำให้ใช้ยิงไม่ได้จนกว่าจะไขกุญแจออก กุญแจอันนี้ดูหน้าตา แล้วก็เหมือนกับกุญแจของปืนลูกซอง น่าจะใช้ร่วมกันได้

ปืนไรเฟิลเรมิงตันในยุคหลังๆนี้จะติดอุปกรณ์ ISS มาทุกกระบอก ยกเว้นปืนที่ใช้ ระบบจุดชนวนไฟฟ้าอี-ทรอนเอ๊กซ์ เนื่องจากปืนแบบนี้ล็อกเข็มแทงชนวนเอาไว้ก็ป่วยการ เพราะเข็มแทงชนวนมันเป็นขั้วไฟฟ้าอิเล็กโทรดอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับตัวอยู่แล้ว ก็เลยไปทำ กุญแจล็อกระบบไฟฟ้าเอาไว้ที่พานท้ายแทน อ้อ ! แล้วปืนไรเฟิลที่ไม่มีอุปกรณ์นิรภัย ISS อีกแบบหนึ่งก็คือปืนในรุ่น 700P เนื่องจากปืนรุ่นนี้เป็นปืนสำหรับขายให้เจ้าหน้าที่ รักษากฎหมายโดยเฉพาะ

เรานำปืนเรมิงตัน 700 ADL ไปยิงทดสอบที่สนามยิงปืนค่ายนวมินทราชินี อำเภอเมือง ชลบุรี วันนี้ฟ้าฝนดูไม่น่าไว้ใจ ก็เลยไม่ได้เอาโต๊ะยิงทดสอบไปด้วย แต่ใช้วิธี ขับรถตะกายขึ้นไปบนเนินดินระยะ 100 เมตร แล้วเปิดฝากระบะหลังรถปิ๊คอัพเป็นโต๊ะยิง ทดสอบแทน กางร่มกันแดดไว้เพียงคันเดียว กะว่าถ้าฝนตกลงมาแบบกะทันหันก็ใช้วิธี เก็บปืนเข้ากระเป๋าแล้วดันทุกอย่างกลับเข้าไปเก็บในรถขับออกมาได้เลย ส่วนแท่นสำหรับ พาดปืนถ้าวางบนเหล็กตรงๆ ก็จะลื่นไปมา ผมใช้วิธีเอาแผ่นยางรองพื้นรถมาปูรองไว้ก่อน เพียงเท่านี้ก็ยิงได้แล้ว แต่ถ้าใช้ขาทรายแล้วอย่าวางกับหลังคาหรือฝากระโปรงรถนะครับ รีคอยล์ของปืนจะมีแรงกดจนรถบุบได้ ผมเคยใช้ขาทรายของแฮริสที่ปลายเป็นยางหนา ยิงปืน .308 โดยวางขาทรายกับฝากระโปรงหลังของรถเรอโนลท์ R9 ยิงไป 3 นัด ได้รอยบุบมา 6 รอย

กระสุนที่ใช้ยิงทดสอบที่ทางร้านให้มากับปืนเป็นกระสุนลาปัว 185 เกรน FMJ ซึ่ง เป็นกระสุนที่มีความแม่นยำสูงเหมาะสำหรับใช้กับปืนสไนเปอร์ เอามายิงกับปืนฮันติ้ง แบบนี้ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ค้นในตู้ได้กระสุนที่เหมาะกับปืนมา 2 กล่อง เป็น กระสุนวินเชสเตอร์ 150 เกรนซิลเวอร์ทิปที่ ดร.เทียนชัยกรุณามอบไว้ให้ยิงทดสอบนานแล้ว กับกระสุนเรมิงตัน 180 เกรนหัวอ่อน คอร์ล็อก ก็เลยเอาไปใช้ยิงแทน ปรากฏว่า กระสุนทั้งสองแบบทำกลุ่มกระสุนได้ประมาณ 1 นิ้วพอๆกัน แถมยังเข้าเป้าใกล้เคียงกันอีกด้วย

ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้างฯ ปืนเพ็ญจันทร์ อยู่ถัดมาทางศาลาเฉลิมกรุง อยู่ตรงหัวมุม ซอยก่อนถึงเฉลิมกรุง หรือไม่ก็โทรศัพท์ไป สอบถามได้ที่เบอร์ 02-222-9524, 02-222-0430

 

 

 

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 327 มกราคม 2545 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com