เอ็ม 686 แครีคอมพ์
ปืนสมิธฯ ฝีมือเพอฟอร์มานซ์รุ่นแรก ติดศูนย์เลเซอร์เพิ่มความแม่นให้กับความแม่น

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โลกในชั่วโมงนี้อยู่ในสภาวะตึงเครียดอย่างยิ่งเพราะโลกตั้งอยู่บนเส้นด้าย
ระหว่างสงครามกับสันติภาพ หากผู้มีอำนาจตัดสินใจกระทำการใดๆที่ผิดพลาดไป สันติภาพและความสงบสุขที่มวลมนุษยชาติใฝ่ฝันและถวิลหามาตลอด จะต้องมีอันมอดมลายลงในพริบตา


รูปเต็มๆ ของสมิธฯ เอ็ม 686 แครีคอมพ์ ลำกล้อง 6 นิ้ว สำหรับภาพชิ้นส่วนภายใน กรุณาดูจากนิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 311 (ก.ย. 43)

ภาพที่ปรากฏบนสื่อต่างๆ ที่แสดงให้เห็นกำลังทางเรือของสหรัฐฯ และพันธมิตร ที่วางกำลังอยู่ในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอาหรับ หรือกำลังทางอากาศที่บินข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาจากสหรัฐฯ ต่างระดมโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอัฟกานิสถานด้วยอาวุธนานาชนิด
เช่น ขีปนาวุธโทมาฮอร์ก รวมทั้งระเบิดแรงสูง เป็นต้น เป็นเครื่องแสดงว่า
สหรัฐฯ ได้ประกาศสงครามรอบใหม่ขึ้นแล้ว

เป็นที่รับทราบกันทั่วไปว่าในปัจจุบันได้มีการดำเนินงานของศาลสถิตยุติธรรม ที่พิพากษาอาชญากรสงคราม จึงทำให้เหล่าผู้บังคับบัญชาทหารหาญทั้งหลายจำเป็นต้อง ควบคุมอำนาจทำลายล้างของอาวุธที่ใช้ในการปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่เพื่อจำกัดให้ อาวุธเหล่านั้นทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหารหรือเป้าหมายที่เกี่ยวข้องเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบอันอาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนพลเรือนให้มากที่สุด การดำเนินการดังกล่าวจะสามารถกระทำได้ ต้องอาศัยอาวุธที่มีระบบนำวิถีที่มีความแม่นยำ
แน่นอน และเชื่อถือได้


สมิธฯ เอ็ม 686 แครีคอมพ์ เจาะช่องพอร์ทที่ส่วนปลายของลำกล้อง หน้าใบศูนย์

ศูนย์หน้าเป็นแท่งสูง ในลักษณะศูนย์ปืนแข่งขัน ใบศูนย์เป็นลิ่ม ตั้งอยู่บนฐานศูนย์

ระบบนำวิถีให้กับอาวุธในสมัยก่อนใช้ลำคลื่นเรดาร์ที่เรียกว่า Beam Rider เรดาร์ จะทำหน้าที่ควบคุมอาวุธนำวิถีเพื่อติดตามเป้า โดยอาวุธจะเคลื่อนที่อยู่ในวิถีหรือ Beam ของคลื่นเรดาร์ตลอดเวลาจนกว่าจะถูกเป้าหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม คลื่นเรดาร์มีจุดอ่อนตรงที่วิถีของคลื่นจะมีความกระจายมาก ฉะนั้นความแม่นยำเที่ยงตรงจึงผันแปรไปตามการกระจายของคลื่น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึง มีผู้พัฒนาระบบนำวิถีแบบใหม่โดยใช้แสงเลเซอร์ ระบบนี้จะมีเครื่องยิงแสงเลเซอร์ยิง ลำแสงไปยังเป้าหมาย ลำแสงเลเซอร์มีคุณสมบัติพิเศษที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ แน่นอนไม่บานปลายและมีการเปลี่ยนแปลงความเข้มของลำแสงน้อยมากเมื่อเคลื่อน ห่างออกไปจากแหล่งกำเนิด อาวุธนำวิถีที่ถูกควบคุมให้วิ่งไปในลำแสงเลเซอร์ จึงมีความถูกต้อง แม่นยำดีกว่าใช้คลื่นเรดาร์ อาวุธที่ใช้ในการโจมตีอัฟกานิสถานเป็นตัวอย่างที่ดี ของการใช้แสงเลเซอร์ในการนำวิถีให้กับอาวุธสมัยใหม่

ตามสภาพความเป็นจริงแล้ว แสงเลเซอร์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเกิดจากขบวนการทางฟิสิกส์ เรียกว่า Light Amplification by Stimulated Emission Radiation ย่อสั้นๆว่า laser เครื่องเลเซอร์เครื่องแรกของโลกถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนาย T. H. Maiman เมื่อ ค.ศ.1960 โดยเขาผลิตแสงเลเซอร์ออกมาจากแท่งทับทิม (ruby) ฉะนั้นเจ้าเครื่องเลเซอร์เครื่องนี้จึงมีชื่อว่า Ruby Laser


ศูนย์หลังแบบไมโคร-มิเตอร์ปรับได้ 4 ทิศทาง ไม่ตัดกรอบ ร่องบากด้วยเส้นขาว

นกสับยังเป็นแบบปืนรุ่นเดิมคือ
มีเข็มแทงชนวนติดอยู่ที่คอ

นอกจากเลเซอร์จะถูกใช้ในระบบอาวุธต่างๆแล้ว ยังมีการใช้เลเซอร์ในการอื่นๆ เช่น การติดต่อโทรคมนาคมในอวกาศ วงการแพทย์ การพิมพ์และอื่นๆอีกมาก แต่สำหรับพวกเรา ชาวปืนเราได้รับประโยชน์จากเลเซอร์ในเรื่องอุปกรณ์ช่วยเล็งต่างๆ ในกีฬายิงปืนที่มีเลเซอร์
ช่วย "นำวิถี" ให้กับกระสุนเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับปืน

ปืนที่จะแนะนำในวันนี้เป็นปืนที่ใช้ประโยชน์จากเลเซอร์กระบอกหนึ่ง ปืนกระบอกนี้คือ
ปืนสมิธฯ รุ่นเอ็ม 686 แครีคอมพ์

ตอนนี้ชื่อ เอ็ม 686 ของสมิธฯ เป็นชื่อที่ติดปากชาวปืนในลักษณะเดียวกับที่คนพูดคำว่า
"แฟ้บ" และหมายความว่าผงซักฟอกไปแล้ว
ฉะนั้นคงป่วยการเปล่าที่จะพูดถึงเรื่องราวของปืนรุ่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก สำหรับปืน เอ็ม 686 แครีคอมพ์ที่เราจะพูดถึงในวันนี้เป็นปืนลำกล้องยาว 6 นิ้ว ที่ใช้โครงปืนของเอ็ม 686-4 มาตกแต่ง ปืนกระบอกนี้ปรากฏโฉมให้ชาวปืนบ้านเราได้ยลโฉมเมื่อปี 2535 หรือเกือบ 1 ทศวรรษ มาแล้วและถือเป็นปืนที่ผลิตด้วยฝีมือของช่างปืนแห่งสมิธฯ เพอฟอร์มานซ์ เซ็นเตอร์ (พีซี) ในยุคแรกๆ ว่ากันว่าในช่วงแรกๆที่ช่างปืนของพีซีตกแต่งปืน พวกเขาจะพยายาม ไม่เปลี่ยนแปลงรูปโฉมของปืนที่นำมาเป็นโครงอย่างมากมายนัก ทุกวันนี้คนเที่ยวหาปืน กระบอกนี้กันมากเพราะถือเป็นก้าวแรกของพีซีที่เข้ามาในเมืองไทย สิ่งสำคัญๆที่พีซีเขา บรรจงตกแต่งให้กับปืนกระบอกนี้ก็มีเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ช่องพอร์ทที่เจาะบริเวณ ปลายลำกล้องหน้าใบศูนย์ ช่องพอร์ทช่องนี้มีลักษณะพิเศษกว่าช่องพอร์ททั่วไปนั่นคือ โดยปกติแล้วการเจาะช่องพอร์ท เขาจะเจาะผ่านลำกล้องซึ่งมีร่องเกลียวลงไปตรงๆ เกลียว ลำกล้องจึงเสียไปตรงส่วนที่มีช่องพอร์ท ทำให้กระสุนที่วิ่งผ่านเกลียวลำกล้องในช่วงนั้นอาจ มีวิถีที่ผิดปกติไป แต่สำหรับเจ้า 686 แครีคอมพ์นั้น บริเวณที่เจาะช่องพอร์ทไม่มีเกลียวลำกล้องอยู่ คือเขาจะเจาะตรงส่วนปลายลำกล้องจริงๆ และคว้านเกลียวลำกล้องออกไปหมด จึงไม่มีผลกระทบ จุดต่อไปที่เป็นผลงานของพีซีคือ ศูนย์หน้าเปลี่ยนไปใหม่ด้วยการใช้ศูนย์หน้าเป็นลิ่มตั้งอยู่บน ฐานศูนย์ ใบศูนย์ด้านหน้าปาดโค้ง ท้ายใบศูนย์ตัดตรง และจุดที่สามก็คือปุ่มปลดโม่รูปวงรี ที่ติดมาแทนที่ปุ่มปลดโม่แบบเดิม

อย่างที่เรียนไว้แต่แรกว่าปืนกระบอกนี้ต้องการเก็บรักษาความเป็นสมิธฯเดิมๆไว้ให้มากที่สุด ฉะนั้นพีซีเขาจึงดำรงสภาพของชิ้นส่วนปืนไว้ดังเดิมโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก นกสับยังเป็นแบบที่มีเข็มแทงชนวนฝังอยู่ที่คอ ไกและนกสับยังเป็นเหล็ก COLOR CASE HARDENED ในขณะที่ประกับด้ามเป็นยางของฮ็อก

ประกับด้ามเป็นยางของฮ็อก แต่ปั๊มคำว่า สมิธฯ ที่คอด้าม

แต่ที่สำคัญ ปืนกระบอกนี้มีอุปกรณ์เลเซอร์ติดมาด้วย เป็นเครื่องยิงเลเซอร์ของ Perfect Point Laser ที่ห้างฯปืนรัตนา เป็นผู้แทนจำหน่าย ตัวเครื่องยิงเลเซอร์เป็นรูปกระบอกกว้าง 3 ซม.
ยาว 7.5 ซม. ยึดเข้ากับลำกล้องตรงบริเวณฝักหุ้มก้านคัดปลอก มีสายต่อออกจากกระบอกไปยังบริเวณด้าม ตรงปลายสายทำเป็นแป้น เวลาเรากำด้ามปืน ก็จะกดเจ้าแป้นนี้ซึ่งจะเป็นการเริ่มทำงาน ฉะนั้นเมื่อผู้ยิงปืนต้องการใช้งานเครื่องยิง เลเซอร์ก็เพียงแต่บีบด้ามให้แน่นเพื่อเปิดเครื่องยิงเลเซอร์ เท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว เครื่องยิงเลเซอร์กระบอกนี้สามารถยิงลำแสงได้ไกล 450 เมตร โดยมีแหล่งพลังงานเป็น ถ่านอัลคาไลน์ขนาด 3-4.5 โวลท์ ด้านหน้าเครื่องยิงเลเซอร์เป็นช่องเปิดเพื่อบรรจุถ่าน และเป็นช่องที่ลำแสงเลเซอร์ออกจากเครื่องยิง ตรงส่วนปลายของเครื่องยิงมีช่องปรับลำแสง โดยช่องด้านข้างใช้ในการปรับซ้าย-ขวา ส่วนช่องด้านบนใช้ในการปรับสูง-ต่ำ ทางห้างฯ ปืน รัตนา กระซิบบอกว่ามีเครื่องยิงเลเซอร์สำหรับปืนออโตด้วย หากแฟนปืนสนใจ

ช่างปืนแห่งพีซีคงไม่ได้ปรับแต่งการปฏิบัติการของปืนอย่างมากมายนักเพราะเท่าที่วัดได้ น้ำหนักไกยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ซิงเกิล 4 ปอนด์ ดับเบิล 12 ปอนด์) แต่ที่ยอดเยี่ยมก็คือ การเดินไกที่ราบเรียบ ทำให้การเล็งยิงอย่างละเอียดทำได้ดี สิ่งหนึ่งที่ อยากบอกก็คือปืนกระบอกนี้สมดุลดีมาก แม้จะมีลำกล้องยาวถึง 6 นิ้ว แต่ก็ไม่เกะกะเก้งก้าง การที่ปืนมีน้ำหนักถึง 45 ออนซ์โดยมีลำกล้องเป็นแบบฟุลลัก เมื่อผนวกเข้ากับ เครื่องยิงเลเซอร์ที่ติดใต้ลำกล้องทำให้ปืนกระบอกนี้สามารถต้านทานแรงเตะจาก กระสุนได้อย่างดียิ่ง ยิ่งมีช่องพอร์ทช่วยระบายแก๊สออกไปด้วยแล้ว การยิงปืนกระบอกนี้ ลำกล้องจึงแทบไม่รู้สึกรู้สาใดๆ

แม้ว่าระยะของเครื่องยิงเลเซอร์เครื่องนี้จะไปได้ถึง 450 เมตร แต่สายตา ของผู้ทดสอบก็คงไม่อำนวยให้ยิงระยะไกลขนาดนั้นได้ นอกจากนั้นในความเป็นจริงแล้ว ปืนกระบอกนี้น่าจะใช้ในการแข่งขันประเภทโบวลิ่งพิน ซึ่งก็คงมีระยะการยิงไม่ไกลขนาดนั้น เราจึงยิงทดสอบปืนกระบอกนี้ที่ระยะ 15 เมตร ซึ่งผู้ทดสอบสามารถทำกลุ่มกระสุนได้อย่างดี
5 นัดที่ยิงไปด้วยลูกหัวตัด แว็ดคัทเตอร์ เข้าเอ๊กซ์ไป 3 นัด และอยู่ในวงสิบเพียง 2 นัด เรียกได้ว่า
5 นัด 50 คะแนนเต็ม พร้อมเอ๊กซ์อีก 3 ตัว อย่างนี้ต้องบอกว่าแม่นมากจริงๆ (ไม่ใช่ผู้ทดสอบผีเข้าและยิงแม่นไปหรอกครับ แต่เป็นเพราะเขาทำปืน มาดีและมีความแม่นยำในตัวของมันเอง) นอกจากนั้น ผู้ทดสอบท่านอื่นๆ ก็ร่วมยิง ทดสอบด้วยซึ่งต่างก็สามารถทำกลุ่มกระสุนได้ดีเช่นกัน

ผู้ทดสอบยืนยิงด้วยท่าฮิปสองมือ

กลุ่มกระสุนของผู้ทดสอบ (ซ้าย) ที่เข้าเอ๊กซ์ไป
3 นัด และสิบ 2 นัด ส่วนกลุ่มทางขวาเป็นของ ดร.ผณิศวร ระยะ 15 เมตร

เอ็ม 686 แครีคอมพ์ ติดเครื่องยิงเลเซอร์ถือเป็นการเพิ่มความแม่นให้กับความ แม่นซึ่งผู้พิสมัยความแม่นยำในขณะอยู่ในสนามแข่งไม่ควรพลาด
ห้างฯ ปืนรัตนา เลขที่ 105 สี่แยกอุณากรรณ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ 10200
โทร. 0-2221-4638, 0-2222-3054 FAX. 0-2226-2938
พร้อมที่จะสนับสนุนผู้แสวงหาความสุดยอดในด้านนี้ตลอดเวลา

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 326 ธันวาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com