เอสทีไอ
โทรจัน ผลจากการที่ห้างฯปืนต่างๆสั่งปืนรูปแบบ 1911 ทุกระดับเข้ามาขายอย่างต่อเนื่องในระยะหลังนี้ ทำให้แฟน ประจำนิตยสาร "อาวุธปืน" ที่เห็นแต่ปืนหุ่นเดิมๆ อย่างนี้ขึ้นปกติดต่อกันหลายฉบับช่วงต้นปี เริ่มออกอาการเซ็งเจ้าปืนมหาอมตะขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่ติดตามอ่านกันมานาน แต่ถ้ามองในอีกด้านหนึ่งร้านค้าย่อมไม่สั่งปืนที่ขายไม่ออกเข้ามาให้เงินจมอยู่กับเหล็กในตู้กระจกครับ ตราบใดยังมีคนต้องการซื้อ ร้านก็จะสั่งเข้ามาขายเรื่อยๆ โดยพยายามเลือกรุ่นที่มีความพิเศษพอให้ผู้ที่กำลังเลือกซื้อเห็นความแตกต่างได้ อาจจะเน้นความแม่นยำ ทนทาน สวยงาม ประณีต หรือเน้นความคุ้มค่าเงินคือคุณภาพสูง ราคาต่ำ เป็นต้น คงไม่มีห้างฯไหนอยากขายของคุณภาพต่ำราคาสูงครับ เพราะเท่ากับเป็นการทำลายชื่อเสียงของตนเองที่สร้างสมมาด้วยความยากลำบากเป็นเวลาหลายสิบปี เงินที่ได้ไม่คุ้มเสีย
ผู้ผลิตปืนก็เช่นกันครับ เดิมเราเคยเห็นปืนต่างยี่ห้อแข่งขันกันในด้านออกแบบ ระบบการทำงานที่แตกต่างกัน เพราะในยุคนั้นต่างก็มีสิทธิบัตรป้องกันการลอกเลียนแบบ ถ้าต้องการทำปืนขายก็ต้องออกแบบเอง ไม่ให้เหมือนเขาอื่น แต่เมื่อสิทธิบัตรปืนพกกึ่งออโตฯของโคลท์ (ออกแบบโดยจอห์น บราวนิง) ที่รู้จักกันในชื่อรหัสปืนทหาร 1911 หมดอายุลง ผู้ผลิตหลายรายเห็นว่าออกแบบ ใหม่ก็สู้มันสมองยอดอัจฉริยะคนนี้ไม่ได้ อย่ากระนั้นเลยทำตามแบบเดิมให้หมดเรื่องหมดราวดีกว่า มีปรับแก้เล็กๆ น้อยๆ เป็นบางจุด เช่น ด้ามแบบลูกดก แกนสปริง ลำเลื่อน ลำกล้องหนาไม่ใช้บูช เป็นต้น แต่กลไกในส่วนควบคุมการยิงและขัดกลอนเหมือนเดิม เมื่อหลายๆรายผลิตปืนแบบเดียวกัน อย่างนี้ก็ต้องแข่งกันในรายละเอียดปลีกย่อยและฝีมือครับ อาจจะใช้วัสดุเหมือนกัน แต่ความแม่นยำและทนทานต่างกันได้ด้วย ความพิถีพิถันในการผลิต การอบชุบ เป็นต้น และถ้าคุณภาพ ประสิทธิภาพ เท่าเทียมกันจนแยกไม่ออก ก็เหลือแต่ความสวยงาม ราคา ปิดท้ายด้วยบริการของทางร้านที่นำเข้ามาขายครับ
เอสทีไอเป็นต้นตำรับโครงปืนโมดูลาร์ (Modular - แยกเป็นส่วนให้ถอดเปลี่ยนได้) รางเหล็กด้ามไฟเบอร์ ใส่ซองกระสุนแบบลูกดกได้โดยน้ำหนักตัวปืนรวมและความแข็งแรงเท่าโครงเหล็กเดิม หาจุดยืนอยู่ หลายปีมาลงตัวที่เป็น "โรงงานผลิตปืน" ไม่ใช่ "ร้านรับแต่งปืน" ครับ คือออกแบบ ปืนแต่ละรุ่นให้เป็นมาตรฐาน ในฉบับที่แล้ว (กันยายน 44) ได้รวบรวมไว้ในรายงานปืนเอสทีไอ รุ่นวีไอพี ว่ามีอยู่ 16 รุ่นนะครับ รุ่นแพงสุด แกรนด์ มาสเตอร์ เป็นรุ่นเดียวที่มีอุปกรณ์ให้เลือกแบบไม่จำกัด เมื่อสหรัฐฯออกกฎหมายห้ามซองกระสุนเกิน 10 นัดสำหรับตลาดปืนพาณิชย์ในประเทศ บรรดาผู้ผลิตปืนสั้นลูกดกทั้งหลายก็จำต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ พวกด้ามอ้วน ที่เคยขายดีจำต้องตัดด้ามสั้นลงเพื่อให้ซองกระสุนจุได้ 10 นัดพอดี แล้วก็เลยตัด ลำกล้อง/ลำเลื่อนให้สมส่วนกันกลายเป็นปืนพกซ่อนอย่างวีไอพีของเดือนที่แล้วเป็นต้น อีกด้านหนึ่งก็หันกลับไปทำโครงแบนธรรมดา เพราะไม่ต้องแข่งกันว่าของใครจุกระสุนได้มากกว่ากันอีกแล้ว ปืนทดสอบเดือนนี้เป็นเอสทีไอ รุ่น Trojan ซึ่งฝรั่งออกเสียงเน้น "โทร้" ตามด้วย "จั่น" หรือ "เจิ่น" สั้นๆ ครับ อ่านแบบไทย สบายๆ ก็เป็น โทรจั้น หรือ โทรแจ้น ตามถนัดปาก แต่เวลาเขียนไม่ต้องใส่วรรณยุกต์ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของราชบัณฑิตไทย และในภาษาอังกฤษคำ Trojan ต้องเขียน ตัวTใหญ่เพราะเป็นชื่อเฉพาะ คือมาจากชื่อกรุงทรอย (Troy) นะครับ
กรุงทรอย เป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต
อยู่แถบเอเชียไมเนอร์ตอนเหนือใกล้กับยุโรป เอสทีไอเอาชื่อ
"โทรจัน" มาเป็นชื่อรุ่น น่าจะหมายถึงความอดทน สู้ข้ามรุ่นได้
เราได้ เอสทีไอ โทรจัน จากห้างฯ ปืนธงมาทดสอบ บรรจุมาในกล่องแข็งอย่างดี ขนาดกล่องกะทัดรัดจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะใส่ปืน 1911 หุ่นมาตรฐานได้ เปิดดูตัวปืน ผิวฮาร์ดโครมสีเงินสวยงาม ตัดกับประกับด้ามไม้สีน้ำตาลแดงบางพิเศษ แกะลายข้าวหลามและตรา STI ด้วยเลเซอร์ และศูนย์หน้า/หลังสีดำ ศูนย์หน้าสอดหางเหยี่ยวขวางโครง ศูนย์หลังปรับได้แบบปืนยิงเป้า สันลำเลื่อนปาดเป็นหลังถนน สองข้างแกะลายกันลื่นเป็นร่องหยาบ ด้านหลัง 7 ร่อง ด้านหน้า 5 ร่อง ด้านซ้ายของลำเลื่อนสลักชื่อรุ่น Trojan และมีตราหัวม้า ด้านขวามีแผนที่ของรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงาน เอสทีไอ ส่วนควบคุมการยิง ใช้ไกไฟเบอร์โปร่งแบบยิงเป้า มีหมุดหยุดไก หลังอ่อนหางยาว เสริมสันหนา นกโปร่ง เมื่อง้างนกจะเข้าหลุม บนหลังอ่อนป้องกันนกหนีบง่ามมือ มีร่องรับนกตก (Halfcock) ห้ามไกมีด้านซ้าย ด้านเดียว แผ่กว้างพอประมาณและเอียงขึ้น ด้านหน้าพออาศัยพักนิ้วโป้งได้เมื่อยิงมือเดียว ด้ามแกะลายด้านหน้าแบบลูกคลื่นลักษณะเฉพาะของเอสทีไอ และเรือนสปริงนกสับเป็นพลาสติกดำ แกะลายละเอียดกันลื่น เป็นแบบหลังตรง มองจากปลายลำกล้อง เอสทีไอใช้บูชครอบลำกล้องตามแบบมาตรฐาน แต่เพิ่มแกนสปริงลำเลื่อนมาให้ ปืนทั้งกระบอกมีที่ติก็ตรงนี้จุดเดียวละครับ คือขาของบูชที่กั้นจุกสปริงนั้น ตัดส่วนโค้งใหญ่กว่าขอบของ จุกสปริงเล็กน้อย ทำให้บูชขยับหมุนซ้าย-ขวาได้บ้าง โครงปืนหน้าโกร่งไกที่ฝรั่งเรียก ครอบกันฝุ่นเป็นแบบเดิมไม่ต่อยาวตลอด ถ้าเทียบกับคู่แข่งยี่ห้ออื่นก็มีโคลท์ โกลด์คัพ, คิมเบอร์ คัสตอม ทาร์เก็ต, สปริงฟิลด์ ลิมิเต็ด เป็นต้น
ด้วยความบังเอิญครับ วันทดสอบมีโคลท์ โกลด์คัพ สองกระบอกมายิงพร้อมกัน ลองจับเปรียบเทียบแล้ว ด้ามที่บางกว่าของโทรจัน ถูกใจบางคนที่มือเล็กหน่อย แต่ผู้พันสุพินท์ไม่ชอบ บอกว่าบางไปหน่อย ความประณีตเรียบร้อยอยู่ในระดับดีมาก ถ้าบูชไม่ขยับผมจะให้ "ดีเยี่ยม" ไปเลยครับ ศูนย์คมชัด ไกชั่งได้ 3.5 ปอนด์ กำลังดี สำหรับปืนใช้งาน และยังไม่หนักเกินไปสำหรับยิงเป้านะครับ ไกหลุดคมดีทำให้รู้สึกว่าไม่หนัก นกสับโปร่งเบากว่าแบบทึบ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อสับ ห้ามไกและคันค้างลำเลื่อนแน่นกำลังดี ไม่แน่นมากจนเข้าลำบาก และไม่หลวมลื่นจนเกินไปเหมือนปืนบางรุ่นที่ยิงๆอยู่นิ้วโป้งเบียดห้ามไกเข้าเอง ทำให้ปืนไม่ทำงาน ตรวจลำกล้องหกเกลียวเวียนซ้ายครับ โรงงานบ่งว่า แมทช์เกรด คือระดับปืนยิงเป้า การยิงทดสอบ
ช่วงแรกยืนยิงจากระยะ 15 เมตร ทั้งมือเดียว สองมือ ดูว่าปืน จะมีอาการสลัดปลอกเข้ากระเป๋าเสื้อหรือลงศีรษะคนยิงบ้างหรือไม่...
เรียบร้อยดีเป็นปกติครับ ปลอกกระสุนไม่บิดเบี้ยว สลัดออกทางขวาทุกนัดไม่ว่าจะเป็นลูกหัวแข็ง
230 เกรน หรือหัวตะกั่วยิงเป้า 200 เกรน ซึ่งกระสุนสองแบบของบุลเล็ทมาสเตอร์ที่ใช้ทดสอบนี้
ให้พลังงานต่างกันมาก คือลูก หัวแข็งทำความเร็วได้ 850 ฟุต/วินาที พลังงาน
370 ฟุต-ปอนด์ ส่วนลูกยิงเป้า นอกจากหัวกระสุนจะเบากว่าแล้ว ยังทำความเร็วต่ำกว่า
เพียง 760 ฟุต/วินาที ได้พลังงาน
การถอดทำความสะอาดต่างจากปืน 1911 ธรรมดาเล็กน้อยเนื่องจากมีแกนสปริงยาวตลอดแบบชิ้นเดียว เริ่มจากปลดซองกระสุน ค้างลำเลื่อน ใช้ลวดหนีบกระดาษดัดเป็นสระอา เสียบขาสั้นเข้าในรูขวาง ของแกนสปริงโดยให้ลวดที่เหลืออยู่ด้านล่างนะครับ (ด้านโครงปืน) จากนั้นขยับลำเลื่อน ให้ช่องปลดคันค้างบนลำเลื่อนด้านซ้ายตรงกับปลายคันค้างลำเลื่อน ดันปลายแกนคันค้างจากขวามาซ้าย ดึงคันค้างลำเลื่อนออก เลื่อนชุดลำเลื่อนพร้อมลำกล้องและสปริงออกด้านหน้า แยกสปริงพร้อมแกนออกจาก ลำเลื่อน ปล่อยลวดขัดสปริงค้างไว้อย่างนั้น ไม่ต้องแกะออกครับ พลิกบูชครอบลำกล้องออกจากลำเลื่อน ถอดลำกล้องพร้อมบูชทางด้านหน้า ประกอบกลับย้อนกับการถอด ประกอบเสร็จค่อยเอาลวดที่ขัดสปริงออก สรุปสำหรับ
เอสทีไอ โทรจัน เป็นปืนที่นักนิยมปืน .45 ออโตฯ ไม่ควรมองข้ามครับ มีกระบอกเดียวใช้ได้ทั้งยิงเป้าเฝ้าบ้าน
ติดรถเดินทาง ความแม่นยำเหลือเฟือสำหรับยิงแข่งขัน อาจจะมียกเว้นแข่งพาดยิง
50 เมตร ที่ต้องการปืนแม่นสุดๆ และไกเบากว่านี้ หรืองานพกซ่อนมิดชิดที่ต้องการปืนเล็กและเบา
นอกเหนือจากสองลักษณะงานที่ว่านี้แล้ว เอสทีไอ โทรจัน ใช้ได้ครอบคลุมหมดครับ
ความทนทานก็มาตรฐาน 1911 เหล็กล้วน เยี่ยมสุดที่ไม่เลือกกระสุนครับ |
|||||||||||||||||
นิตยสารอาวุธปืน
ฉบับที่ 325 พฤศจิกายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ
|
Copyright
©2000 www.gunsandgames.com
Powered by eighteggs.com