เรมิงตัน 40 XB ทาร์เก็ต เคเอส

เคยสังเกตกันหรือไม่ครับว่าปืนไรเฟิลที่มีความแม่นยำสูงสุดอย่างเช่นปืนเบนช์เรสต์ หรือว่าปืนสไนเปอร์ชั้นดีของกองทัพสหรัฐฯ อย่างเช่นปืนแบบ M24 หรือปืนแบบ M40 ที่พัฒนามาไม่รู้ว่ากี่รุ่นตั้งแต่เป็น A1, A2, A3 จนตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนเป็น A4 อยู่แล้วนั้น ไม่ว่านาวิกโยธินอเมริกันเขาจะเปลี่ยนลำกล้อง สต๊อกหรือว่าระบบศูนย์กล้องไปอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่ยอมเปลี่ยนก็คือ ยังไงๆ ก็ยังคงใช้โครงปืนของเรมิงตันอยู่เหมือนเดิม


ภาพเต็มด้านซ้ายของเรมิงตัน 40-XB ทาร์เก็ต เคเอส

แอ๊คชั่นหรือโครงปืนของเรมิงตัน โมเดล 700 มีกำเนิดมาจากการนำท่อเหล็กกลมนำมากัดร่องสำหรับรับปีกขัดกลอน ทำเกลียวตัวเมียใส่ลำกล้องปืน ด้านท้ายกัดเป็นร่องหลืบกับเจาะรูร้อยสลักต่างๆ เพื่อใส่ชุดลั่นไก การที่โครงปืนของเรมิงตันทำจากท่อเหล็กทำให้ได้ความแข็งแรงของทรงกลม ลดน้ำหนักและยังปรับแต่งเนื้อไม้ที่นำมาประกอบทำเป็นสต๊อกได้ง่าย และมีสัดส่วนที่แม่นยำ

ตำนานของ 40-X เกิดก่อนที่เรมิงตันจะผลิตปืนไรเฟิลโมเดล 700 สำหรับปืน ไรเฟิลชนวนกลางที่ใช้เป็นรากฐานของปืน 40-X ในระยะเริ่มแรกก็คือปืนเรมิงตัน โมเดล 721 แต่หลังจากที่ผลิตปืน 40-X ออกมาได้ไม่กี่ปี เรมิงตันก็ปรับปรุงปืนไรเฟิล โมเดล 721 ขึ้นมาเป็นโมเดล 700 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปืน 40-X ก็เลยใช้โครงปืนของโมเดล 700 มาจนถึงทุกวันนี้


ภาพเต็มด้านขวาของเรมิงตัน 40-XB ทาร์เก็ต เคเอส

ปืนโมเดล 40-X มีด้วยกันหลายรุ่น อย่างเช่น 40-XC National Match Rifle จะหมายถึงปืนไรเฟิลสำหรับการแข่งในระบบ UIT (ชนวนกลาง) คล้ายๆกับปืนยาวมาตรฐานที่เราใช้กระสุน .22LR ยิงแข่งกันอยู่ทุกวันนี้ละครับ แต่การแข่งขันในต่างประเทศเขามีรุ่นกระสุนชนวนกลางด้วย
ปืน 40XC ในระยะแรกจะทำความยาวลำกล้องเป็น 23.25 นิ้ว ต่อมาก็ยืดขึ้นมาเป็น 24 นิ้ว จนถึงทุกวันนี้ ในปัจจุบันเรมิงตันปรับปรุง 40-XC ธรรมดามาเป็น 40-XC KS หรือเปลี่ยนสต๊อกจากไม้วอลนัทมาเป็นวัสดุสังเคราะห์ประเภทเคฟลาร์

เรมิงตัน 40-X ที่เข้ามาในบ้านเราเป็นแบบแรกก็คือ 40-XB ทาร์เก็ต ซึ่งเป็น 40-X แบบที่ใช้ลำกล้องยาวถึง 27.25 นิ้ว ปืนแบบนี้เป็น 40-X ประเภทอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ยิงระยะไกลโดยเฉพาะ คือจะใช้เป็นปืนวาร์มินท์ก็ได้ หรือจะเอามายิงแข่งระยะไกล 300-400 เมตรแบบที่บ้านเรากำลังนิยมอยู่ก็ดี 40XB ทาร์เก็ตในระยะแรกจะเป็นแบบสต๊อกทำด้วยไม้วอลนัท รางปืนอวบใหญ่ แต่ในระยะต่อมา เรมิงตันก็เพิ่มรุ่น 40-XB KS ทาร์เก็ต ใช้สต๊อกเคฟลาร์สีดำแบบมีโครงอะลูมินั่มภายใน และสำหรับในปัจจุบันปืนรุ่นนี้จะมีกระสุนชนวนกลางให้เลือกรวม 16 ขนาด ตั้งแต่ .220สวิฟท์ขึ้นไปจนถึง .300 เรมิงตัน อัลตร้า แม็กนั่ม ซึ่งเป็นกระสุนใหม่เอี่ยมที่เพิ่งจะโผล่ออกมาในแคตตาล็อกของเรมิงตัน เล่มประจำปีค.ศ.2000 นี้เอง 40 XB ทาร์เก็ตมีสต๊อกให้เลือก 3 แบบ
ก็คือ เคฟลาร์, ไม้วอลนัท และสต๊อกแบบ ธัมป์โฮล เป็นไม้อัดลามิเนท


ช่องสำหรับบรรจุกระสุน เปิดหัว เปิดท้าย ด้านท้ายกว้างพอที่จะสอดจานท้าย กระสุนแม็กนั่มลงไปได้


ถึงแม้จะเป็นโครงปืนแบบชอร์ต แอ๊คชั่น ก็ยังพอจะบรรจุกระสุน .300 วินฯ แม็กฯ ลงไปได้ ชนิดต้องสอดเฉียงๆ เข้าไป และยาวพอที่จะคัดปลอกกระสุนออกมาได้
แต่ถ้าจะเอากระสุนที่ยังไม่ได้ยิงออกมา
ต้องใช้วิธีปลดลูกเลื่อนออกจากตัวปืน

ปลายปีที่แล้ว อวป.ได้รายงานผลการทดสอบเรมิงตัน 40-XB BR KS ซึ่งเป็น 40-X สำหรับใช้ลงแข่งขันในระบบพาดแท่นโดยเฉพาะ สต๊อกเป็นแบบท้องแบนเรียบ กว้าง 3 นิ้ว ของแม็กมิแลนแต่ลงสีเขียวสดแบบ Remington green ซึ่งเป็นสต๊อกที่มีโครงสร้างแตกต่างกับสต๊อกมาตรฐานของเรมิงตันตรงที่สต๊อกสีเขียวกระบอกนั้นใช้ โครงสร้างแบบโมโนค็อก มีผิวแข็งที่อยู่เฉพาะด้านนอกคล้ายๆกับก้ามปู สต๊อกแบบนี้ แข็งแรงเพียงพอสำหรับใช้ยิงพาดแท่น แต่ถ้าเอาไปใช้งานสมบุกสมบันจะสู้สต๊อกของ เรมิงตันแบบมีโครงกระดูกเป็นอะลูมินั่มแชสซีอยู่ข้างไม่ได้

สต๊อกแบบมีโครงอะลูมินั่มอยู่ข้างในแบบเดียวกับ 40-XB ทาร์เก็ตกระบอกที่เรา นำไปทดสอบในวันนั้นเป็นสต๊อกที่แข็งแรงมาก ทนต่อสภาพอากาศเลวร้ายต่างๆ เหนือกว่า ไม้วอลนัทและไม้อัดลามิเนท แต่มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่ดูไม่ค่อยมีราคา และยังมีน้ำหนัก พอๆกับสต๊อกที่ทำจากไม้วอลนัทเพราะต้องแบกน้ำหนักโครงโลหะที่อยู่ข้างใน
ก็เลยนิยมใช้กันอยู่เฉพาะในปืนวาร์มินท์กับปืนแท็กทิคอลต่างๆ


การถอดเข็มแทงชนวนออกมา ก็ทำแบบเดียวกับลูกเลื่อนของเรมิงตัน มาตรฐาน คือเกี่ยวแง่นี้รั้งดึงเข็มแทงชนวน มาข้างหลัง จนกระทั่งรอยบากโผล่ออกมา ให้เห็น (ไขควงชี้) ระวังไปโดนบ่าอันหน้า เพราะเป็นบ่าที่เกาะกับเซียร์

ใช้แผ่นเหล็กหรือลวด
สอดเข้าไปกั้น

40-XB ทาร์เก็ต กระบอกนี้เป็นแบบรีพีตเตอร์ หรือเป็นปืนแบบมีซองกระสุนอยู่ภายในตัวปืน ที่ต้องเน้นย้ำว่าเป็นแบบรีพีตเตอร์ก็เพราะว่าตามปกติแล้วปืน 40-X จะทำเป็นแบบซิงเกิลช็อต ซึ่งต้องใช้มือหยิบกระสุนใส่รังเพลิงกันทีละนัดตามสไตล์ของปืนแข่งขันแบบพาดแท่น
แต่สำหรับ 40-XB ทาร์เก็ตเป็นปืนที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบวาร์มินท์ด้วย ดังนั้น เรมิงตันจึงได้เพิ่ม รุ่นรีพีตเตอร์มาให้เลือกใช้ได้อีกด้วย ต่างจาก 40-XB BR ซึ่งจะมีเฉพาะซิงเกิลช็อตเท่านั้น

ปืนไรเฟิลในตระกูล 40-X สมัยก่อน ในยุคที่กล้องกำลังขยายสูงๆ จะทำมาให้ยาวร่วมๆเมตร
ดังนั้น ปืน 40-X ในยุคนั้นจะทำฐานกล้องเอาไว้ที่โคนลำกล้องด้วย แต่สำหรับ 40-X ในสมัยนี้ก็จะใช้ฐานกล้องแบบเดียวกับเรมิงตันโมเดล 700 ธรรมดานี่เอง ดังนั้นปืน 40-XB ทาร์เก็ต ที่เราทดสอบ จึงได้ใช้ฐานกล้องของมิลเล็ทกับศูนย์กล้องของสวาร็อฟสกี้โมเดล PV-S 6-24x50P ซึ่งเป็นกล้องชั้นดีจากออสเตรีย ติดอันดับแนวหน้าของโลกยี่ห้อหนึ่ง

แล้วหมุนคลายเข็มแทงชนวนออกมาได้เลย

เตรียมเอาปืนไปยิงดีกว่าครับ ปืนไม่มีศูนย์เปิดเราต้องติดกล้อง เรมิงตันเจาะรูต๊าป เกลียวมาสำหรับติดฐานกล้อง

กล้องสวาร็อฟสกี้ PV-S 6-24x50P มีเลนส์รับภาพโต 50 มม. และใช้ลำตัวกล้อง 30 มม. ทำให้แสงผ่านเข้ามาได้มากกว่ากล้องธรรมดา ช่วยให้มองภาพได้ชัดเจนและภาพไม่วูบวาบเนื่องจากขนาดของลำแสงที่ มาเข้าตาของเราจะโตกว่าธรรมดา คือถ้าปรับซูมมาที่กำลังขยาย 6 เท่า ลำแสงที่ออกมาทางท้ายกล้องจะโต 8.3 มม. ในขณะที่กล้องธรรมดาจะโต 6 มม. แล้วเมื่อเราซูมภาพมาที่กำลังขยาย 24 เท่า ขยายสูงสุด เท่าที่กล้องตัวนี้จะทำได้ ลำแสงออกจะเล็กลงมาเป็น 2.1 มม. (กล้องทั่วไป 1.6 มม.) ลำแสงโตขนาดนี้ทำให้เราหาภาพได้ง่าย ตาเยื้องจากท้ายกล้องไปนิดหน่อยก็ยังพอจะมองภาพได้
ไม่วูบวาบหรือเว้าๆ แหว่งๆ เหมือนกับกล้องราคาประหยัดทั่วไป


ติดฐานกล้องของมิลเล็ทลงไปก่อน


ติดกล้องสวาร็อฟสกี้

แต่จุดที่ประทับใจที่สุดกลับเป็นส่วนท้ายของกล้องที่มีโช้กอัพหดเข้ามาใน ตัวกล้องช่วยไม่ให้กระแทกเบ้าตาคนยิงให้เจ็บตัว แถมอายเพื่อนฝูงอีกต่างหาก พวกที่ ยิงแต่ปืนลูกกรดคงไม่เห็นประโยชน์ของกล้องราคาครึ่งแสนตัวนี้ แต่นักนิยมไรเฟิลแรงสูง จะต้องชอบแน่นอน เพราะหลายๆคนจะเคยมีประสบการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการ โดนกล้องกระแทกมาแล้ว เชื่อไหมครับว่าบางครั้งปืนที่ยิงนิ่มๆ อย่างเช่น .308 วินฯ หรือ 7 มม. เรฯ แม็กฯ ก็ยังทำให้เราบาดเจ็บได้ ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอกครับ ในการแข่งไรเฟิลที่สนามนวมินทราชินี
เมื่อวันที่ 23-24 มิ.ย. 44 ที่ผ่านมา ที่ได้จัดให้มีการแข่งในระยะ 500 หลาด้วย สนามนี้ ตั้งอยู่เชิงเขาซึ่งตามปกติแนวจะลาดขึ้นเนินเขาประมาณ 2-3 องศาอยู่แล้ว พอไปตั้งเป้าที่ระยะ 500 หลาก็ยิ่งยกสูงขึ้นไปอีก ทำมุมยิงเอียงขึ้นเกือบ 5 องศา ทำให้ปืน ถีบหนักกว่าปกติเพราะมีแรงดึงดูดของโลกช่วยเสริมแรงรีคอยล์ เล่นเอาคนที่ไปยิงระยะ 500 หลาเจ็บตัวไปตามๆกัน อย่างเช่น คุณสมปอง สกลดิลก โดนตุ่มลูกเลื่อนเรมิงตัน 7 มม. กระแทกนิ้วซ้น คุณกิติชัย ทันทวี โดนท้ายกล้องหัวคิ้วแตก ขนาดตัวผมเองไปลองยิงตั้งศูนย์ดูแค่สิบนัดยังโดน โกร่งไกกระแทกนิ้วกลางเบาะๆ แค่หนังปรินิดหน่อยพอยางบอนซึมๆ ยังไม่ถึงกับแตก

ยิงทดสอบที่สนามยิงปืน 17 รามอินทรา ระยะ 200 หลา ผมเลือกกระสุนเรมิงตัน
168 เกรนแมทช์ กระสุนค่อนข้างแรง วัดความเร็วเฉลี่ยได้ประมาณ 2,750 ฟุต/วินาที

อวป. ไปยิงทดสอบเรมิงตัน 40-XB ทาร์เก็ต รีพีตเตอร์ กระบอกนี้ที่สนามยิงปืน 17 รามอินทรา ในวันนั้นเราเตรียมกระสุนไปยิงทดสอบด้วยกัน 2 แบบคือ กระสุนลาปัว 185 เกรนใช้หัว FMJ แบบ D46 มาตรฐานของวงการสไนเปอร์ กับกระสุนเรมิงตันแบบแข่งขันที่ใช้หัว 168 เกรน ในรุ่นแมทช์คิงส์ ที่เรมิงตันซื้อหัวกระสุนมาจากเซียร่า หัวกระสุนของเซียร่ารุ่นนี้ โรงงานกระสุนขนาดใหญ่อย่างเรมิงตัน วินเชสเตอร์ และเฟเดอรัล ต่างก็ซื้อไปใช้อัดกระสุนเกรดแข่งขันของตัวเอง เท่าที่เคยทดลองใช้มา กระสุนของเฟเดอรัลจะอ่อนที่สุด วินเชสเตอร์อยู่กลางๆ และของเรมิงตันจะแรงที่สุด ยิ่งพอมายิงกับ 40XB ทาร์เก็ต ลำกล้อง 27.25 นิ้วกระบอกนี้ก็ทำความเร็วได้เกือบถึง 2,800 ฟุต/วินาที และยังมีกลุ่มกระสุนจัดว่าใช้ได้ดีทีเดียว

ผู้ส่งทดสอบคือ ห้างฯ ม.ฮะกีมี เลขที่ 98-100 สี่แยกอุณากรรณ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ 10200
โทร. 0-2222-7791, 0-2222-8371 โทรสาร 0-2226-5924

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 324 ตุลาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com