เบเร็ตต้า 682 โกลด์ อี สกีต
ลูกซองแฝดซ้อนสกีตเป้าบิน

ความสำเร็จของการยิงปืน วัดกันด้วยจำนวนเหรียญรางวัลที่ได้รับ เบเร็ตต้าได้สรุปเหรียญในการแข่งระดับโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978-1999 รวม แทร็ป สกีต ดับเบิลแท็ป ดังนี้ เหรียญทอง 90 เหรียญ เหรียญเงิน 75 เหรียญ เหรียญ ทองแดง 10 เหรียญ ประเภทบุคคล 45 เหรียญทอง 40 เหรียญเงิน 42 เหรียญ ทองแดง ส่วนในระดับโอลิมปิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956-2000 รวมทุกประเภทได้ 10 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 9 เหรียญ ทองแดง โดยเฉพาะในซิดนีย์ 2000 ได้เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญ ทองแดง 1


ภาพด้านขวาของปืนสกีต เบเร็ตต้า ค่อนข้างยาวกว่าปืนสกีตทั่วไปเล็กน้อย

โรงงานเบเร็ตต้าเริ่มทำการตั้งแต่ ค.ศ. 1526 ประมาณเกือบ 500 ปีมาแล้ว ยาวนานกว่าประวัติของประเทศอเมริกาเสียอีก จนถึงปัจจุบันมีปืนที่ผลิตได้ต่อวัน 1,500 กระบอก นับรวมทั้งปืนลูกซองแบบต่างๆทั้งปืนสั้นปืนยาว ขนาด .22 ไปจนถึงขนาด .45 ส่งออกประมาณ 100 ประเทศ ถ้าคุยประวัติคงจะยาวเพราะเบเร็ตต้าประสพความสำเร็จในเรื่องปืนค่อนข้างสูง ในอดีตที่ผ่านมาปืนลูกซองเป้าบินของเบเร็ตต้า เข้ามาในรุ่นของ 686 จำได้ว่าหลายปีมาแล้ว ในกลุ่มของปืนลูกซองแข่งขัน เบเร็ตต้ามีหลายรุ่น เริ่มจาก AL 391 Urika, S686, S687EL Gold Pigeon II Sporting, S682 Gold E, DT 10 Trident, ASE Gold ล้วนเป็นลูกซองใช้ยิงเป้าบิน ในแต่ละรุ่นจะแยกเป็นอีกหลายแบบ ทั้งสกีต แทร็ป ดับเบิลแท็ป


ภาพด้านซ้ายของปืนสกีต เบเร็ตต้า

การยิงเป้าบินนับเป็นการยิงปืนที่เร้าใจ ค่อนข้างจะสนุกกว่าการยิงปืนประเภทอื่น เนื่องจากเป็นการเลียนแบบการยิงนกที่กำลังบิน ไม่รู้ว่าจะบินมาในแนวใด การยิงเป้าที่บินข้ามหัว จัดเป็นการยิงแบบสกีต ซึ่งจะกำหนดจุดยิงอยู่ระหว่างหอที่จะปล่อยนกออกมา ระยะที่ยิงจากคนยิงไปยังเป้าที่บินอยู่ไม่ไกลมากนัก ส่วนประเภทที่ต้องยิงนกที่บินออกไปจากตำแหน่งของคนยิงเป็นประเภทแทร็ป ระยะที่ยิงจะไกลกว่าแบบสกีตค่อนข้างมาก เป้าแบบดับเบิลแท็ปเป็นการปล่อยนกออกทีละสองตัว จึงต้องแยกประเภทของปืนที่ใช้ในแต่ละชนิดของการยิงเป้าบิน ถ้าถามว่าจะใช้ปืนลูกซองแบบอื่นเช่น ลูกซอง-ออโต หรือลูกซองแบบปั๊มมายิงในเป้าบินได้ไหม กติกาไม่ได้ห้ามและปืนออโตบางยี่ห้อก็ออกแบบมาให้ยิงเป้าบินอยู่แล้ว แต่กำหนดห้ามใส่กระสุนเกินสองนัดในเกมของสปอร์ตติ้งเคลย์ที่สมาคมยิงเป้าบินจัดขึ้น มีปืนลูกซองหลายๆ ชนิดเข้ามาร่วมการแข่งขันบ่อยครั้ง แม้ในต่างประเทศก็ใช้แต่ปืนออโตอย่างเดียวร่วมการแข่งขันก็มีส่วนในการแข่งขันระดับชาติ การใช้ปืนเหล่านั้นมายิงในเกมของสกีตหรือแทร็ป อาจกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดไป หรือใครใจถึงอาจลองใช้ดูไม่มีใครห้ามอยู่แล้ว


วิธีถอดล้างปืน เริ่มจากยกลิ้นที่กระโจมมือไม้ขึ้นก่อน


ยกกระโจมมือออกมา จะเห็นขาล็อกที่ติดบนลำกล้อง

ทำไมต้องแฝดซ้อน แฝดขนานหรือลำกล้องเดียวแบบออโตใช้ไม่ดีตรงไหน คำถามคงมีมามากในลักษณะนี้
การใช้แฝดซ้อนให้โอกาสผู้ยิงทำการยิงซ้ำในเป้าเดียวกันได้เร็ว ข้อได้เปรียบคือ มีการชดเชยตำแหน่งกระสุนตกแตกต่างไป จากจุดที่กระสุนกระทบในนัดแรก ลองนึกภาพเวลาเป้าที่บินผ่านตัวเราไป ในช่วงแรกเป้าที่เราเห็นจะอยู่ในแนวเล็งที่เรายกปืนขึ้นประทับพอดี ในกรณีที่เรายิงนัดแรกพลาดไป ต้องการยิงซ้ำนัดที่สอง คนยิงเพียงแต่วาดปืน หรือเบี่ยงปืนตามแนวที่นกตัวนั้นบินไป แล้วเหนี่ยวไก กลุ่มกระสุนในนัดที่สองจะมีแนวที่ต่ำลงเอง ทั้งๆที่แนวเล็งยังคงอยู่ที่เดิม การชดเชยแบบนี้เป็นการออกแบบที่ตั้งใจในเกมนี้โดยเฉพาะ วิธีทดสอบการยิงลักษณะนี้ จึงเป็นการยิงในตำแหน่งที่เล็งแบบเป้าเคลื่อนที่ สามารถยิงแนวระดับจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ดี ในนัดแรกจะตรงเป้าที่เล็ง เมื่อเคลื่อนที่มายิงนัดที่สอง กลุ่มจะตกต่ำลงเล็กน้อย ทั้งๆที่แนวเล็งเหมือนเดิม ส่วนการวาดแนวเล็งจากล่างขึ้นบน เหมือนนกกำลังบินขึ้น นัดแรกตรงตำแหน่งเล็ง เมื่อวาดปืนขึ้นตามเป้าที่สอง กลุ่มกระสุนจะโดนกลางนกพอดี ถ้าเป็นปืนลำกล้องเดียวหรือแบบอื่นจะยิงไม่ตรงตัวนกแบบนี้ ซึ่งมักจะข้ามหัวไป เป็นส่วนใหญ่ การฝึกยิงเป้าสกีตจึงมีความสำคัญมากที่จะรู้ว่าแนวลำกล้องในนัดแรกกับนัดที่สองอยู่แตกต่างกันอย่างไร


ขาเตะปลอกกระสุน ใช้แรงจากสปริงในกระโจมมือ อันนี้เป็นแผ่นเหล็กที่เสียบล็อกกับโครงปืนก่อนที่จะโยก กระโจมมือลงล็อกกับโครงปืน

การเคลื่อนที่ในแนวที่ไม่เหมือนกัน กลุ่มกระสุนตกจะไม่เหมือนกัน เจ้าของปืนคงต้องลองกันเองว่าในระยะไหน ปืนจะยิงกลุ่มสูงต่ำเท่าไร หลังจากนั้นค่อยไปยิงในสนามจริง ในการยิงเป้าบินจริงไม่มีโอกาสเห็นแนวกระสุนว่ามันไปอย่างไร เพราะถ้ายิงถูกเป้า เป้าจะแตก ถ้าไม่ถูกก็ไม่รู้ยิงไปถูกตรงไหน

ในโช้กของปืนสกีตหรือม่านกระสุน จะเป็นสกีตโช้ก บนลำกล้องจะตีตราเป็นตัวย่อว่า SK/SK หมายถึงเป็นสกีตโช้กทั้งสอง ลำกล้อง แล้วมันกว้างเท่าไหร่ มากกว่าปกติมากไหม ตอบได้ว่า ในโช้กกว้างๆอย่างในปืนลูกซองต่อสู้ เส้นผ่าศูนย์กลางจะประมาณ 0.750 นิ้ว ในสกีตโช้กลำกล้องทั้งสองวัดได้ 0.770 นิ้วหรือ 19.56 มิลลิเมตร เรียกว่า กว้างพิเศษ ส่วนปืนเป้าบินอย่างอื่นเช่นแทร็ป ก็จะเป็นฟูลหรือเอ๊กซ์ตร้าฟูลโช้กไป เรียกได้ว่าอะไรที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้ จะพบในปืนเป้าบินที่สรรหาข้อได้เปรียบมาใส่ ความยาวลำกล้องของปืนรุ่นนี้คือ 28 นิ้ว ลำกล้องเชื่อมกัน เฉพาะตรงปลายลำกล้องกับที่โคนลำกล้องก็แหวกแนวเล็กน้อยเพราะปืนแฝดส่วนใหญ่ จะเชื่อมกันตลอดความยาวของลำกล้อง แต่เบเร็ตต้าปล่อยให้เห็นช่องว่างตลอดแนวระหว่างลำกล้องทั้งสอง ข้อดีคือปืนจะเบา คล่องตัวกว่า ทำง่ายดีไม่ต้องห่วงเรื่องลำกล้องคด เพราะการเชื่อมยาวๆ ทำได้ยากกว่ามาก


เมื่อผลักหางเหยี่ยวแล้ว ลำกล้องจะตกลงมาเองในลักษณะนี้ ระวังลำกล้อง หล่นออกมาเองเมื่อถอดกระโจมไม้ออกมาแล้ว

เอกลักษณ์ของเบเร็ตต้าจุดหนึ่งที่ดีคือ เลื่อนตำแหน่งของไกได้ รุ่นนี้เช่นกันเลื่อนได้ประมาณ 0.5 นิ้ว แถมมีไกแบบหน้ากว้าง ให้เปลี่ยนได้หนึ่งอันเป็นอะไหล่ ไกชุบทองทั้งคู่ การเหนี่ยวไกนัดแรกเป็นการเหนี่ยวไกของลำกล้องล่าง เหนี่ยวซ้ำเป็นลำกล้องบน ถ้าหักลำไม่ใส่กระสุน เหนี่ยวไกได้เพียงครั้งเดียว จะเหนี่ยวซ้ำต้องกระแทกที่พานท้าย แรงๆหนึ่งทีค่อยเหนี่ยวได้อีกที ไกเป็นระบบอินนิเชียร์ (Inetia) ต้องมีแรงกระแทกไกที่สองถึงจะทำงาน วัดน้ำหนักไกได้ไม่เท่ากัน คือ 4.5, 4.25 ปอนด์ ตามลำดับ มีเซฟห้ามไกอยู่ที่คอปืน สามารถเข้าห้ามไกได้ทุกจังหวะ เซฟไม่ออโต หมายความว่าเมื่อหักลำเพื่อบรรจุกระสุน ในปืนแฝดทั่วไปเซฟจะเข้าเองอัตโนมัติ แต่ปืนเป้าบินไม่มีระบบนี้ เพราะกลัวว่าเวลายิงจะลืมปลดเซฟก่อน ข้อเสียระบบนี้จึงไม่เหมาะการใช้งานแบบชาวบ้าน ต้องระวังมาก ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งบรรจุหรือต้องเข้าเซฟทุกครั้งเมื่อบรรจุกระสุนแล้ว

ขาดีดปลอกกระสุนบน/ล่าง  ถ้ายังไม่ได้ยิงกระสุนจะลอยออกมาเฉยๆ  ส่วนปลอกที่ยิงแล้วจะดีด ออกมาตั้งแต่ตอนหักลำแล้ว

สลักสองตัวที่ชี้ซ้าย ขวา  เป็นสลักที่ล็อกโครงปืนกับลำกล้อง ไม่ให้กระดกแยกจากกัน ถ้าไม่ผลักหางเหยี่ยวที่คอปืน ไกที่ตั้งระยะเดินได้ ทำไกหน้ากว้างพิเศษ สำหรับคนชอบหน้าไกใหญ

ยางรองพานท้ายให้มาสองอัน อันติดกับปืนหนา 0.670 นิ้ว อันที่เป็นอะไหล่หนา 0.929 นิ้ว ก็ให้เจ้าของปืนไม่ต้องไปตัด พานท้าย เพื่อเหมาะสมกับช่วงแขนของตัวเอง ส่วนชุดไขควงเปลี่ยนก็แนบมาให้เรียบร้อย ชิ้นส่วนที่ให้มาเปลี่ยนได้อีกอย่างคือ ศูนย์หน้า ศูนย์ที่ติดมาเป็นแท่งสีชมพูยาว 12.75 มิลลิเมตร แท่งอะไหล่สั้นสีชมพูยาว 7.90 มิลลิเมตร และมีศูนย์กลมขาวอีกหนึ่งตัว วิธีเปลี่ยนง่ายๆเพียงหมุนเกลียวลงไปตรงๆ ถ้ามั่นใจว่าใช้ศูนย์นี้แน่ ควรหยดกาวยึดเกลียว ป้องกันหล่นหาย

เบเร็ตต้าแกะลายเช็กเกอร์ที่กระโจมมือหน้ากับที่คอปืนด้วยเม็ดลายประหลาดก็แปลกไปอีกแบบ ไม่ต้องทำอะไรให้เหมือน กันก็ดังได้ สันพานท้ายต่ำจากแนวลำกล้อง ช่วงหน้าสุด Drop at comb วัดได้ 1.5 นิ้ว สันพานท้ายต่ำจากแนวลำกล้องตรงช่วงท้ายสุด Drop at heel วัดได้ 2.5 นิ้ว ในปืน เบเร็ตต้ารุ่นใหม่กว่านี้มีระบบความจำที่ใช้กับปืนที่ปรับความสูงของสันพานท้ายได้แล้ว นับว่าเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้นตอนหนึ่ง ต่อไปน่าจะมีชิพคอมพิวเตอร์คำนวณแนววิ่งของเป้าบินให้สัมพันธ์กับแนวลำกล้องที่เปลี่ยนแปลงได้ ในไม้เทนนิสเริ่มใส่ชิพคอมพิวเตอร์เข้าไปเพื่อปรับระดับแรงยืดหยุ่นของไม้ให้สัมพันธ์กับแรงกระแทกของลูกที่ตกกระทบ แล้ว ต่อไปคงไม่แปลกที่เห็นคนตาบอดยิงปืนแม่นเท่ากับคนตาดีได้


โครงปืนชุบขาวแกะลายเล็กน้อย เส้นลายถมทองปุ่มกลมๆเป็นจุดหมุนของลำกล้อง


ด้านใต้โครงปืนบอกยี่ห้อเบเร็ตต้า สกรูโกร่งไกมีสกรูเล็กๆขันล็อกอีกที ไม่รู้จะละเอียดไปถึงไหน

ปืนเบเร็ตต้ารุ่นนี้บรรจุในกล่องพลาสติกอย่างดี แยกชิ้นอยู่สามชิ้นเท่านั้น คือส่วนของลำกล้อง กระโจมมือหน้า และโครงปืน เวลาประกอบต้องประกอบลำกล้องกับโครงก่อน ดูแง่ของลำกล้องเกี่ยวเข้ากับจุดหมุนที่โครงปืน แล้วยกลำกล้องให้ล็อกกับโครง โดยวางแนวลำกล้องกับโครงอยู่ในแนวเดียวกัน ถ้าใส่ไม่ตรงปืนจะไม่ล็อกกระโจมมือ จะมีลิ้นโยกได้ที่ใต้กระโจมมือ ก่อนใส่โยกลิ้นนี้ขึ้นก่อนสอดไม้กระโจมเข้าทางส่วนโครงปืนก่อน เมื่อเข้าแล้วค่อยกดด้านที่เหลือจนแนบกับลำกล้อง กดลิ้นล็อกให้จมสนิทเป็นการล็อกกระโจมไม้ วิธีถอดให้ทำย้อนกลับ เมื่อยิง นัดไหนไปแล้วปืนจะดีดเฉพาะนัดนั้นออกมาเท่านั้น ปืนกระบอกนี้ทำการแต่งแล้วจนไม่มีความฝืดในการหักลำ

การถอดล้างทำเพียงเท่านี้ก็พอ

การทดสอบคราวนี้ ตั้งใจให้เห็นถึงความได้เปรียบของปืนแฝดซ้อนที่ทำไว้ยิงเป้าบินโดยเฉพาะ ใช้กระสุน BB มีขนาดของ เม็ดลูกปรายใหญ่กว่าลูกปรายที่ยิงเป้าบินมาก เพื่อให้เห็นกลุ่มกระสุนชัดระยะที่ยิง 15-20 หลา ยิงต่อเนื่องจากซ้ายไปขวา และจากล่างขึ้นบน ให้สังเกตตำแหน่งกระสุนกระทบเป้าที่เกิดจากการเผื่อไว้ในกรณีที่นกหรือเป้าบิน บินต่ำลงจากซ้ายไปขวา หรือเมื่อยิงเป้านกที่กำลังบินขึ้น การวาดปืนตามแล้วเหนี่ยวไกเลยจะเห็นได้ชัดว่ากลุ่มกระสุนตก ที่เผื่อไว้เข้ากลางนกพอดีไม่ต้องยิงเผื่อสูง

ปืนเป้าบินเป็นปืนเฉพาะทางที่ออกแบบมาใช้ในเกมแบบนี้ ถ้านำมาเทียบกับปืนลูกซองทั่วไปคงเปรียบกันไม่ถูก แต่ถ้า เทียบกันในระดับของปืนเป้าบิน เบเร็ตต้าจัดเป็นปืนระดับกลางที่มีราคาไม่สูง คุ้มค่า เพราะมีความคงทนมาก กีฬาเป้าบินเมื่อคิดให้ดีจะไม่แพงกว่าการยิงปืนประเภทอื่นเลย ทั้งค่ากระสุนและตัวเป้า แต่มีข้อจำกัดต้อง มายิงที่สมาคมเป้าบิน ไม่มีสนามอื่นที่มีเครื่องปล่อยเป้ามาตรฐาน ไม่ต้องรวยก็ยิงได้

ปลอกที่ยิงแล้วดีดใส่ตาได้ ควรระวัง

เป้าระยะ  20  หลา ยิงเป้าซ้ายก่อนยิงตามเป้าขวา นัดแรกตรงที่เล็ง นัดสองอยู่ต่ำลงเอง ถ้าเป็นเป้าบินจะยิงโดนทันที เพราะเป้าจะบินต่ำลงจากระยะเดิม

สนใจกีฬาประเภทนี้ติดต่อที่สมาคมยิงเป้าบินแห่งประเทศไทย สนามกีฬาหัวหมาก มีคำแนะนำและปรึกษาจากสมาคมฯเป็นอย่างดี ห้างฯ ปืนเทเวศร์ เป็นผู้นำเข้า ราคาตั้งไว้ที่ 120,000 บาท
มีปืนยิงแทร็ปเข้ามาด้วย สนใจสั่งจองไว้ก่อนก็ได้.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 324 ตุลาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com