สฟิงซ์ 2000 พี
ปืนสั้นออโต 9 มม. พาราฯ คอมแพ็กลูกดก คุณภาพสูง ผิวงามลออตา

นักนิยมปืนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลาว่างเดินตระเวนดูตามตู้โชว์หน้าร้านค้าอาวุธปืน แถวถนนอุณากรรณและถนนบูรพาอยู่เสมอนั้น หลายท่านคงจะฉุกคิดขึ้นมาบ้างว่า ชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านมา ปืนสั้นออโตสฟิงซ์ยอดปืนใช้งานยี่ห้อหนึ่ง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้หายหน้าหายตาไปจากตลาดปืน พร้อมทั้งข่าวคราวเกี่ยวกับปืนยี่ห้อนี้ก็ค่อยเลือนหายไป แต่ถึงอย่างไร ปืนสั้นออโตยี่ห้อนี้ก็ไม่เลือนหายไปจากหัวใจและความคิดคำนึงของนักนิยมปืนที่เข้าใจซึ้งถึง คุณค่าและรสนิยมที่มีอยู่ในตัวมันเองเสียทีเดียว บางท่านที่เฝ้ารอคอยว่าคงจะมีการสั่งเข้ามาในตลาดปืนบ้านเราในไม่ช้า บางท่านก็รู้สึกเสียดายและหมดหวังที่จะได้มีโอกาสได้ครอบครองปืนสฟิงซ์อีกต่อไป ทั้งนี้เพราะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับปืนสั้น ออโตของสวิตเซอร์แลนด์ยี่ห้อนี้ในลักษณะเชิงลบและเชิงบวกปะปนกันไปครับ

ด้านซ้ายของปืนสฟิงซ์ 2000 พี

ข่าวบางกระแสก็บอกว่าโรงงานผู้ผลิตปืนสฟิงซ์เลิกกิจการหรือขายกิจการไปแล้ว เนื่องจากผลกระทบ จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำถดถอยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับสฟิงซ์เป็นปืนคุณภาพดี มีต้นทุนการผลิตสูง จึงไม่สามารถประคองตัวอยู่ในตลาดปืนได้ แต่ข่าวอีกกระแสก็แจ้งว่า บริษัท สฟิงซ์ ซิสเต็มส์ ชะลอการผลิตไป ชั่วระยะเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าของตนเองเสียก่อน ต่อไปก็คงทยอยออกสู่ตลาดปืนเช่นเดิม กระแสข่าวแบบ หลังนี้ฟังดูแล้วค่อนข้างจะสมเหตุสมผลทีเดียวครับ เพราะตอนระยะหลังๆ เราสังเกตเสียหน่อยก็จะเห็นได้ว่าปืน สฟิงซ์บางกระบอกฝีมือผลิตไม่ค่อยจะเรียบร้อย แม้จะเป็นจุดเล็กๆน้อยๆไม่กระทบถึงความแข็งแรงทนทาน หรือไม่มีผลต่อปฏิบัติการของปืนก็ตาม แต่ผู้ใช้ปืนก็คาดหวังต่อปืนดีราคาค่อนข้างสูงอย่างสฟิงซ์ไว้มาก จึงรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อย

ด้านขวาของปืนสฟิงซ์2000พี

ที่สำคัญเหนืออื่นใด ในอดีตเราต้องยอมรับกันว่า ในขณะที่ส่วนสัดรูปทรงอันเกือบจะเหมือนกัน แต่ความแม่นยำของปืน สฟิงซ์มักจะเป็นรองปืนซีแซดเจ้าของต้นแบบอยู่บ้างเล็กน้อยแม้จะไม่สู้ชัดเจนนัก แต่นักยิงปืนที่ฝีมือชำนาญก็พอบอกได้ครับ แต่ในแง่การใช้งานตามปกติแล้วหาความแตกต่างอะไรไม่ได้ ซึ่งทางโรงงานปืนสฟิงซ์คงจะยึด หลักความจริงในข้อนี้มากไปหน่อย โดยลืมคิดไปว่า ความรู้สึกนึกคิดของนักนิยมปืนจำนวนมากได้เปลี่ยนไปแล้ว ชาวปืนในยุคนี้ มักคาดว่าปืนดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะราคาค่อนข้างสูง ควรจะใช้ยิงเป้าได้ดีพอสมควร นอกเหนือจากการยิงต่อสู้ป้องกันตัวตามปกติได้ดีที่สุดแล้ว ตรงจุดนี้อาจเป็นมูลเหตุสำคัญ ที่ทำให้ปืนสฟิงซ์มีส่วนแบ่งในตลาดน้อยกว่าเท่าที่ควร โดยเฉพาะในตลาดปืนของไทยครับ ส่วนเหตุผลที่ว่าเนื่องจากเศรษฐกิจโลกไม่สู้ดี ปืนสฟิงซ์ราคาค่อนข้างสูง แม้คุณภาพและรสนิยมดี ก็ย่อมทำตลาดได้ไม่ดีไปด้วย ข้อนี้คงจะไม่เป็นความจริงเท่าใดนัก เพราะพวกเราชาวปืนทั้งหลายคงจะเห็นตัวอย่างแล้วว่า ปืนสั้นออโตแบบ 1911 ที่คุณภาพดี มีความแม่นยำสูง และราคาก็สูงมาก ก็ยังทำตลาดได้ดี บริษัทที่ผลิตปืนแบบนี้ต่างก็ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำไม่น้อย ผู้ผลิตบางรายเติบโตขยายกิจการมาจากร้านแต่งซิ่งปืนเล็กๆ ก็มีครับ ทั้งๆที่ปืนแบบ 1911 ก็ไม่ใช่แบบ ที่คิดสร้างขึ้นมาใหม่แต่อย่างใดเลยครับ

ไม่ว่ากระแสข่าวจะเป็นอย่างไร นักนิยมปืนของไทยจะมีทัศนคติแบบไหนกับปืนสั้นออโตสฟิงซ์ก็ตาม บัดนี้ ห้างฯ ปืนธง ก็ได้สั่งนำเข้ามาจำหน่ายอีกครั้งหนึ่งแล้ว จากบริษัทผู้ผลิตรายเดิม ไม่ได้เลิกกิจการไปไหน และก็ไม่ได้ขายกิจการให้ใคร ดังนั้น ข่าวลือบางกระแสจึงไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่ บริษัท สฟิงซ์ ซิสเต็มส์ หยุดผลิตไปเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าหรือไม่นั้น เดี๋ยวเราก็จะได้เห็นกันต่อไป เพราะห้างฯ ปืนธง ได้ส่งปืนตัวอย่างล็อตใหม่เอี่ยมสุดมาให้นิตยสารอาวุธปืนทดสอบแล้วครับ

วิธีถอดล้างปืน ถอดแม็กกาซีนออกตรวจดูไม่ให้มีลูกค้างคา ลำกล้อง ผลักลำเลื่อนถอยหลังจนขีดที่ท้ายลำเลื่อนกับที่โครงปืน ทางด้านซ้ายมาตรงกันดังภาพ แล้วใช้มือข้างไม่ถนัดกำรวบส่วนหน้าลำเลื่อนกับ โครงปืนเข้าด้วยกัน

กดปลายขาคันค้างทางด้านขวาเข้ากับด้ามไขควง หรือเข้ากับขอบโต๊ะไม้ให้ด้านซ้ายเผยอขึ้น (จุดที่ไขควงชี้) และขาคันค้างพ้นจากร่องล็อกของลวดสปริงแล้วดึงออกไป ถ้าปืนใหม่ฝืดมาก ให้ใช้ไขควงปากแบนๆ หุ้มด้วยผ้าค่อยๆงัดออกมา

เมื่อเปิดกล่องปืนออกมาก็พบปืนสั้นออโตแบบคอมแพ็กหุ่นทรงเดียวกันกับซีแซด 75/85 สีเงินยวงลออตาวางอยู่กลางบุฟองน้ำ ความสวยงามและความประณีตที่ปรากฏบนผิวโลหะของปืนบ่งบอกให้ใครๆ ทราบได้ในทันทีว่ามันเป็นปืนชั้นเยี่ยมในด้าน ฝีมือการผลิตกระบอกหนึ่งโดยที่ไม่ต้องมีใครบอกให้รู้มาก่อนเลย ความจริงปืนสั้นออโต ของสฟิงซ์เป็นปืนชั้นดีตั้งแต่ผลิตออกมาในครั้งแรกแล้ว แม้จะไม่ได้มีการออกแบบขึ้นมาใหม่ เพราะอาศัยแผนแบบของปืนซีแซด ที่มีอยู่แล้ว เพียงนำมาปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่ด้วยความที่เป็นปืนผลิตขึ้นจากฝีมือชาวสวิส จึงเชื่อได้ทั้งความประณีต เรียบร้อยและคุณภาพเนื้อเหล็ก อันรวมถึงความแม่นยำด้วย มันจึงเปรียบเหมือนปืนซีแซด "ตลาดบน" หรือปืนที่ผู้เขียนอยาก จะเรียกว่า "ซีแซดคนรวย" แต่เกรงว่าท่านผู้อ่านเข้าใจว่า ผู้เขียนกล่าวเป็นเชิงถากถางหรือแบ่งแยกชั้นวรรณะอะไรทำนองนั้น หามิได้ครับ ความจริงมันเป็นปืนของผู้มีรสนิยม ถ้าหากมันตรงกับรสนิยมใครสักคน แม้ฐานะไม่ถึงกับร่ำรวย ก็พอจะขวนขวายหามาครอบครองได้ เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นครับ

จับคันค้างลำเลื่อนดึงออกมาตรงๆ ดังภาพนี้

เมื่อหยิบปืนสฟิงซ์ขึ้นมาถือในมือ ทุกเหลี่ยมมุมของปืนดูกลมกลืนลงตัวเหมือนปืนรุ่นก่อนๆไม่มีผิด ความประณีต เรียบร้อยไม่ลดน้อยลงไปกว่าที่ผู้เขียนเคยสัมผัสมาเลย แต่กลับดูคล้ายๆกับว่าจะเรียบร้อยดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ข้อนี้จะเป็น อุปาทานของผู้เขียนหรือไม่ก็ยังไม่กล้ายืนยันครับ สำหรับนักนิยมปืนที่นิยมชมชอบปืนสั้นออโตซีแซด 75/85 นั้น จะพบว่าซีแซดมีอะไร สฟิงซ์ก็มีเหมือนกันหมด แถมชิ้นส่วนบางอย่างอาจจะดูรื่นตาดีกว่าด้วย เช่น หางนก เป็นต้น สำหรับส่วนที่แตกต่าง จากปืนออโตของซีแซดอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ด้านบนลำเลื่อนทำแบนราบเรียบดูคล้ายกับปืนสั้นออโตกล็อก รวมไปถึงส่วนที่เป็นช่องคายปลอก ตัวลำเลื่อนเองเน้นรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมอย่างเห็นได้ชัด แต่ขอบมุมมีการ ลบเหลี่ยมคมไว้อย่างดีและดูสวยงาม

ทั้งส่วนที่เป็นโครงปืนและลำเลื่อนของสฟิงซ์ โดยหลักใหญ่แล้วก็เหมือนปืนออโตของซีแซด ยกเว้นร่องเว้าเล็กๆน้อยๆ ก็มีแตกต่างกันไปบ้างตามธรรมเนียม เพราะเป็นปืนคนละยี่ห้อ ลำเลื่อนกับโครงปืนยึด กันด้วยร่องรางประเภทโครงปืนหุ้มลำเลื่อนแบบเดียวกับซีแซด ที่แตกต่างกันมากก็คือการแต่งผิวโลหะ คือสฟิงซ์ชุบผิวด้วยโลหะแพลลาเดียมซึ่งเป็นโลหะในตระกูลแพลทินั่มหรือทองคำขาว จัดว่าเป็นโลหะที่มีราคาแพงชนิดหนึ่ง นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังคงทนต่อการสึกหรอ เป็นโลหะชนิดเดียวกับที่ทันตแพทย์ใช้ครอบฟัน โดยเฉพาะฟัน ที่ใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหาร เท็จจริงอย่างไร ผู้เขียนคงจะเรียนถามคุณหมอจันทร์ให้แน่นอนอีกสักครั้งครับ

ในตอนแรกๆ ที่ปืนสฟิงซ์สั่งเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรามีทั้งแบบรมดำ แบบโครงปืนชุบแพลลาเดียมขาวและลำเลื่อนรมดำ กับแบบชุบแพลลาเดียมขาวทั้งกระบอก ระยะหลังๆ เป็นแบบชุบขาวนวลทั้งกระบอกมากกว่า กระบอกใหม่ที่ได้รับมา ทดสอบในครั้งนี้ก็ชุบแพลลาเดียมทั้งกระบอกเช่นกันครับ แสดงว่าผู้ใช้ปืนส่วนมาก (รวมทั้งผู้เขียน) ชอบแบบชุบแพลลาเดียมทั้งกระบอกมากกว่า เพราะผิวพรรณบ่งบอกถึงความเป็นผู้ดีมีตระกูลชนิดบรรยายไม่ถูกครับ

เนื่องจากรูปทรงส่วนสัดต่างๆ เหมือนกับปืนซีแซด ซึ่งผู้เขียนเอ่ยถึงมาก่อนอยู่บ่อยๆ ผู้เขียนจึงไม่ขอรายงานรายละเอียดแจกแจง อะไรมาก เพราะนักนิยมปืนแทบทุกท่านคุ้นเคยกับปืนสั้นออโตซีแซดดีอยู่แล้ว ถ้าจะกล่าวก็เป็นเชิงเปรียบเทียบข้อดีกันเท่านั้น เพราะข้อด้อยของปืนซีแซดกับปืนสฟิงซ์ก็แทบมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรอยู่แล้ว โครงด้ามก็เหมาะมือดีเช่นเดียวกัน แม้จะเป็นปืนลูกดกก็ตาม โกร่งไกกลมมนรูปไข่ขนาดกว้างพองาม ไม่ทำจะงอยให้นิ้วชี้เกาะ แก้มประกับด้ามเป็นวัสดุ สังเคราะห์สีดำ มีรูปทรงและลายกันลื่นคล้ายๆกับแก้มด้ามของบราวนิง ไฮ-เพาเวอร์ อยู่มาก หน้าและหลังด้ามจับแกะลายเม็ด กันลื่นตีกรอบไว้ไม่สู้กว้าง-ยาวเต็มพื้นที่เท่าใดนัก แต่ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ เพราะแก้มด้ามก็มีลายกันลื่นไว้แล้ว

ส่วนชุดลำเลื่อน/ลำกล้อง ผู้เขียนได้กล่าวถึงมาก่อนแล้ว ไม่ขอบรรยายซ้ำในส่วนที่เคยเอ่ยถึง แต่การล็อกระหว่างลำกล้อง กับลำเลื่อนเป็นแบบซิก-เซาเออร์หรือแบบกล็อกนั้นยังไม่ได้อธิบายไว้ การล็อกลำกล้องกับลำเลื่อนแบบนี้เป็นที่นิยมใช้กันระหว่าง ผู้ผลิตอาวุธปืนในยุโรป เป็นหลักการที่ผลิตง่ายและใช้งานได้ผลดีครับ เพราะใช้ส่วนหน้าด้านบนภายนอกของรังเพลิงขัดล็อกกับ ลำเลื่อนกับตรงขอบด้านหน้าของช่องคายปลอก ด้วยเหตุนี้ช่องคายปลอกจึงมีขนาดกว้างเพื่อให้มีบริเวณสัมผัสมากพอ ผลพลอยได้ก็คือทำให้การดีดปลอกเปล่าสะดวกมากขึ้น โอกาสติดขัดแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ นะครับ เพราะการดีดปลอกเปล่านั้นมีปัจจัยอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยอีก

วิธีสังเกตดูว่าปืนมีระบบล็อกลำกล้องกับลำเลื่อนแบบอาศัยสันขอบนอกรังเพลิงขัดล็อกกับขอบช่องคายปลอกนั้น เห็นได้ง่ายๆคือ ช่องคายปลอกจะมีขนาดกว้างกว่าปกติ ก็พอสันนิษฐานไว้ก่อนได้ ลักษณะต่อไปก็คือ สันบนของรังเพลิงหรือท่านจะเรียกว่า ท้ายลำกล้องก็ตามใจ จะสูงเกือบเสมอกับสันบนลำเลื่อน ส่วนลักษณะเสริมเข้ามาก็คือ ช่องคายปลอกมักจะมีทรงเป็นเหลี่ยม ส่วนจะลบมุมให้มนเพื่อความสวยงามหรือไม่ก็แล้วแต่ละยี่ห้อจะทำกันไป ข้อดีของระบบล็อกแบบนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ รังเพลิงจะมีขนาดหนาทึบ ช่วยให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ตรงจุดนี้ดูเหมือนว่าสฟิงซ์ จะมีภาษีดีกว่าซีแซดต้นตำหรับอยู่บ้างครับ

เนื่องจากปืนสฟิงซ์ชุบขาวทั้งกระบอก ศูนย์ปืนก็เลยต้องทำเป็นระบบจุดแดง 3 จุด แทนที่จะเป็นจุดขาวอย่างปืนรมดำทั่วไป การที่ทำด้านบนลำเลื่อนแบบราบ ช่วยให้ใช้ศูนย์ทรงต่ำได้ และยังคงเห็นภาพศูนย์ได้ชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง ศูนย์หน้ามีใบศูนย์ ใช้ฐานเสียบร่องขวางลำเลื่อน ยอดราบแต่ลาดลงไปข้างหน้านิดหน่อย ด้านหลังตัดตรง มีจุดแดง 1 จุด ส่วนศูนย์หลังเป็นร่องบากสี่เหลี่ยมปกติ ฐานเสียบร่องขวางกับลำเลื่อนตามธรรมเนียม มองด้านข้างเป็นรูปลิ่ม ด้านหน้าและหลังใบศูนย์ทำร่องเว้าเป็นครึ่งวงกลมหงาย จึงดูคล้ายกับมีใบศูนย์จริงๆ อยู่ตรงกลางแล้วมีกำบังอยู่สองด้าน เพียงแต่เป็นชิ้นเดียวกันตลอด ด้านหลังมีจุดแดง 2 จุด

ลำกล้องเป็นเหล็กชุบขาวเช่นเดียวกัน ตรงรังเพลิงเป็นทรงเหลี่ยมมีขนาดหนาทึบอย่างที่กล่าวมาแล้ว แท่งใต้ลำกล้องเจาะรู เป็นรูปเมล็ดถั่วฝักยาวให้แกนคันค้างลำเลื่อนสอดร้อยผ่านเพื่อทำหน้าที่ยึดลำกล้องไว้กับโครงปืนตามปกติ และทำหน้าที่เป็นระนาบทางลาดให้ท้ายลำกล้องลดต่ำปลดล็อกจากลำเลื่อนด้วย และด้านท้ายของแท่งใต้ ลำกล้องนี้ยังทำเป็นทางลาดป้อนกระสุนจากแม็กกาซีนเข้ารังเพลิงได้อีกเช่นกัน

ระบบลั่นไกหรือชุดอำนวยการยิง ตลอดจนคันบังคับต่างๆ มีรูปร่างและปฏิบัติการแทบไม่ผิดเพี้ยนไปจากปืนซีแซด 75/85 ยกเว้นนกสับไม่ทำหงอนนกกลม แต่หงอนนกก็มีขนาดพอใช้งานได้ถนัดและไม่เกะกะขณะพกพานัก แต่ความจริงแล้ว สฟิงซ์เหมือนกับซีแซด 85 มากกว่า เพราะมีแป้นคันค้างลำเลื่อนและคันนิรภัยให้ทั้งสองข้าง แต่คันนิรภัยในปืนสฟิงซ์รุ่นใหม่นี้ ไม่ได้ทำหน้าที่ห้ามไกจริงๆ แต่ทำหน้าที่นิรภัยในแง่การลดนก พูดตรงๆก็คือเป็นคันลดนกอย่างเดียว และลดนกสับที่ง้างอยู่ ให้ลงมาอยู่ในตำแหน่งฮาล์ฟค็อกได้อย่างปลอดภัย เพราะเข็มแทงชนวนก็มีสมอล็อกเข็มฯไว้ไม่ให้พุ่งไปข้างหน้าได้ถ้าหาก ไม่มีการเหนี่ยวไก ส่วนระบบไกปืนก็เป็นแบบดับเบิล/ซิงเกิลแอ๊คชั่น แต่น้ำหนักไกซิงเกิล แอ๊คชั่นเยี่ยมยอดมากในปืนระดับใช้งาน เพราะวัดได้ 3 3/4 ปอนด์ เท่ากับที่บอกไว้ในคู่มือเลยครับ ส่วนดับเบิลแอ๊คชั่นวัดได้ประมาณ 9 ปอนด์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว รวมความแล้วไกปืนออโตยี่ห้อนี้ยิงได้แบบปืนลูกโม่ชั้นดีไม่มีผิดเลยครับ

จุดเด่นอีกจุดหนึ่งก็คือปุ่มปลดแม็กกาซีนแบบปืนซิ่ง คือโผล่พ้นโครงด้ามสูงพอสมควร ทำให้ใช้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว แต่ก็ไม่เกะกะ พอกดปุ่มปลดแม็กกาซีน ตัวแม็กฯ จะพุ่งออกมาทันที ไม่ติดค้างอยู่แล้วรอให้ใช้มือดึงออกอีกครั้ง เพราะไม่มีแผ่นเหล็กสปริงบางๆดันด้านหลังตัวแม็กกาซีนไว้ตามแบบฉบับของปืนแบบนี้โดยทั่วไปครับ

เข็มแทงชนวนของปืนสฟิงซ์ในชุดซีรีส์ 2000 ก็เป็นจุดหนึ่งที่ผู้เขียนชอบอีกเช่นกัน เพราะมันยึดไว้ด้วยแป้นปิดท้าย เหมือนปืนออโต 1911 ซึ่งถอดเข้าออกได้ง่าย โดยไม่ต้องพึ่งช่างปืนหรือใช้เครื่องมือพิเศษ ผู้เขียนไม่ชอบปืนอะไรที่ยึดเข็มแทงชนวนไว้ด้วยสลัก เพราะถอดออกมาทำความสะอาดได้ยากกว่า และการประกอบกลับบางทีก็ ยากเข้าไปอีก บางทีต้องมีคนช่วยด้วยซ้ำ

ทดสอบปฏิบัติการและลองบริหารกลไกดูแล้ว ทุกส่วนคล่องตัวดีตามปกติ ไม่มีฝืดฝืน จะมีอยู่บ้างก็ที่คันลดนกซึ่งมีลักษณะค่อนข้างแบนและต้องใช้แรงกดลงพอสมควร ผู้เขียนพิจารณาดูแล้วเห็นว่าเขาตั้งใจทำมา อย่างนี้เอง เพื่อไม่ให้เผลอไผลไปลดนกเข้าโดยบังเอิญ ถ้าจะลดนกลงต้องจงใจทำกันจริงๆอย่างนั้นเลยครับ และการทำไว้ค่อนข้างแบนและบางก็เพื่อไม่ให้มันบาดหรือสะกิดหัวแม่มือตอนปืนสะบัดด้วยแรงรีคอยล์นั่นเอง ซึ่งตรงนี้บางทีก็เป็นเรื่องคิดเล็กคิดน้อย แต่บางทีก็มีความสำคัญเหมือนกัน

หลังจากตรวจสอบปฏิบัติการและทำความสะอาดเบื้องต้น พร้อมทั้งหล่อลื่นกลไกบางส่วนแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการยิงจริงๆ การยิงทดสอบในภาคสนาม (สนามยิงปืน) เป็นการทดสอบปฏิบัติการเมื่อใช้งานจริงว่าเชื่อถือไว้วางใจได้แค่ไหน แม่นยำ มากน้อยเพียงใดมากกว่าอย่างอื่น ส่วนจะยิงให้มันสะใจอย่างไร เป็นเรื่องตามมาทีหลังครับ

ผู้เขียนเริ่มยิงก่อนด้วยการบรรจุกระสุนฟิอ็อกกี้ หัวหุ้มเปลือกแข็ง 115 เกรน เข้าแม็กกาซีนซึ่งชุบด้วยแพลลาเดียม เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆของปืน การบรรจุกระสุนก็ออกแรงนิ้วตามธรรมดานี่แหละครับ แล้วออกไปยืนยิงเป้าตาวัว (บูลอายส์) ที่ ระยะประมาณ 15 เมตร ยิงออกไป 10 นัด บนเป้าแผ่นเดียวกัน แปลกแต่จริงครับ กลุ่ม 5 นัดแรกค่อนข้างเยี่ยม ส่วนอีก 5 นัดหลังค่อนข้างแย่ ปืนยิงผีเข้าผีออกกระมัง? ไม่ใช่เด็ดขาด มือคนยิงค่อนข้างจะไม่คงเส้นคงวาเสียมากกว่า ผู้เขียนขอเรียนตรงๆครับว่า ผู้เขียนยิงปืนออโตหุ่นทรงแบบนี้ทำกลุ่มไม่ค่อยประทับใจมาก่อนแล้ว ยังหาสาเหตุ ไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไรครับ แต่ท่านที่ยิงทดสอบหลังจากผู้เขียน ทำกลุ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ บางท่านทำกลุ่มดีมาก อาจเป็นเพราะปืนเองเริ่มทำงานเข้าที่ก็ได้ครับ ถึงตอนนี้ท่านผู้ใดที่รักปักใจอยู่กับปืนที่มีรูปร่างแบบเดียวกันนี้ ถึงจะเป็นยี่ห้อต้นตำรับหรือไม่ก็ตาม ก็คงต้องคิดหนักละครับ ถ้าถามผู้เขียนเองก็จะชี้มาที่ปืนสฟิงซ์กระบอกนี้โดยไม่ลังเล แม้ตัวเองจะยังยิงทำกลุ่มไม่ได้อย่างใจก็ตามครับ ส่วนปืนปฏิบัติการเรียบร้อยดี การดีดปลอกเปล่าตกห่างตัวผู้ยิงออกไปค่อนข้าง สม่ำเสมอ เห็นทีจะต้องลำบากเก็บเงินซื้อมาใช้สักกระบอกเสียแล้ว

เป้าซ้ายของผู้เขียน เป้าขวาเป็นฝีมือคุณบัณฑุ

ผู้เขียนเริ่มยิงทดสอบที่ระยะ 15 เมตร จับปืนสองมือ

กล่าวแบบรวบยอด ปืนสั้นออโตสฟิงซ์ รุ่นกลับมาใหม่หรือสฟิงซ์คัมแบ็กนี้ เป็นปืนที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งที่นักยิงปืนต้องการ อยู่มาก เพราะผลิตด้วยฝีมือประณีต ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ดูลักษณะแข็งแรง ทนทาน ซ่อนไว้ในหุ่นที่ค่อนข้างสำอาง เปรียบดัง เศรษฐีชอบเพาะกายเล่นกล้ามนั่นแหละ แล้วท่านจะไม่ลองแวะดูที่ ห้างฯ ปืนธง บ้างเลยหรือครับ ถึงจะไม่ประดับธงหรูหราฟู่ฟ่า แต่ร้านนี้ก็เต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพ บริการด้วยใจเที่ยงธรรม ลองโทร. 0-2222-7784, 0-2623-9392 ถามไถ่กันดูก็ได้ครับ