เอ็ม
627 พีซี วีคอมพ์ ปืนสมิธฯ ฝีมือเพอฟอร์มานซ์ วันที่ 18 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของวงการกีฬายิงปืนพกบ้านเรา เพราะวันนั้นจะเป็นการรวมตัวกันของพลพรรคผู้รักปืนสมิธฯ ในรายการแข่งขันยิงปืนที่จัดขึ้น สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ มีชื่อว่า 2001 SMITH & WESSON CLASSIC งานนี้ใครที่ ครอบครองปืนยี่ห้อสมิธฯก็นำปืนของตนมาแสดงขีดความสามารถให้โลกและเพื่อนพ้องได้เห็นกันบ้างนะครับ เพราะตัวท่านถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ครอบครองปืนในระดับดีที่สุดในโลกยี่ห้อหนึ่ง ในการแข่งขันกีฬาทุกประเภทมักมีการอ้างอิงสถิติที่มีการทำมาก่อนเสมอๆ
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆก็คือ มักมีการสร้างและทำลายสถิติกันอยู่เป็นประจำ
การสร้างสถิติที่สำคัญในวงการปืนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนของสมิธฯ เกิดขึ้นเมื่อวันที่
24 กรกฎาคม 2542 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการปืนผาหน้าไม้โลก
ในวันนั้นกระทาชาย นายเจอรี่ มิชเลก นักกีฬายิงปืนชื่อก้องโลกที่เรารู้จักกันดีในนาม
"เจ้าแห่งปืนรีวอลเวอร์" ได้สร้างสถิติโลกในเรื่องการยิงปืน
นายเจอรี่ หนูจอมซนผู้เคยมาแสดงฝีมือให้ชาวไทยได้ยลมาแล้ว ได้ใช้สถานที่ที่เวสต์พอยต์ มลรัฐมิสซิสซิปปี สร้างสิ่งที่โลกตะลึงสิ่งนี้โดยใช้อุปกรณ์สำคัญ นั่นคือ ปืนรีวอลเวอร์ของ สมิธแอนด์เวสสันที่ผลิตโดยศูนย์เพอฟอร์มานซ์เซ็นเตอร์กระบอกหนึ่ง ที่ชื่อรุ่นว่า เอ็ม 627 พีซี วีคอมพ์ สถิติแรกที่นายเจอรี่สร้างขึ้นคือ
การยิงปืนรีวอลเวอร์จำนวน 8 นัดที่เป้าเดียวภายในระยะเวลาที่น้อยที่สุดในโลก
เชื่อหรือไม่ว่านายเจอรี่เขากราดกระสุนทั้ง 8 นัด ที่ยิงจากเอ็ม 627 พีซี
วีคอมพ์ ไปที่เป้าโดยใช้เวลาเพียง 1 วินาทีเท่านั้น สถิติโลกสถิติที่สอง พ่อหนูเจอรี่เขานำเป้ามาเรียงกัน 4 เป้า และใช้ปืนยิงเป้าละ 2 นัด คราวนี้ก็แทบไม่เชื่ออีกว่าเขาทำได้อย่างไร เพราะการยิงเป้าละ 2 นัด จำนวน 4 เป้านี้ นายเจอรี่ใช้เวลาเพียง 1.06 วินาที ซึ่งก็มากกว่าสถิติแรกเพียง .06 วินาทีเท่านั้น สถิติโลกดังกล่าวนี้สร้างโดยใช้ปืนเดียวกันกับสถิติแรก ต้องยอมรับว่าคนอะไรกันนิ้วไวยิ่งกว่ากามนิตหนุ่ม !
และสถิติสุดท้ายก็ตามมา แต่คราวนี้พ่อเจ้าประคุณเจอรี่เปลี่ยนไปใช้ปืนสมิธฯ เอ็ม 625 ขนาด 11 มม. ยิงแทน โดยเขาทำสถิติโลกด้วยการนำเป้า 1 เป้ามาตั้งและยิงปืนใส่จำนวน 12 นัด โดยแยกออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกยิง 6 นัด และบรรจุกระสุนใหม่ จากนั้นยิงชุดที่สองอีก 6 นัด เวลารวมในการยิงทั้ง 12 นัดเพียง 2.99 วินาที เพื่อป้องกันการคลางแคลงสงสัยและอาจมีข้อกล่าวหาว่าสถิติโลกอันสวยหรูนี้จะเป็นการ
"จัดฉาก" หรือเป็นพวกลวงโลก มีผู้กล่าวกันว่า การกระทำใดๆให้สำเร็จต้องประกอบด้วย 3 องค์ ได้แก่ องค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี เมื่อนำกรณีของนายเจอรี่ มิชเลก ที่สร้างสถิติโลกขึ้นมานี้มาพิจารณาจะพบว่า มีการประสานและใช้คุณลักษณะที่ดีของทั้ง 3 องค์อย่าง มีประสิทธิภาพและสอดคล้องต้องกัน ด้านองค์บุคคลนั้น นายเจอรี่เป็นผู้ที่คลุกคลีกับปืนรีวอลเวอร์มาอย่างช้านาน จนมีผู้ขนานนามว่า "เจ้าแห่งปืนรีวอลเวอร์" จึงมีความคุ้นเคยกับการยิงปืนรีวอลเวอร์เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ในด้านองค์วัตถุปืนที่นายเจอรี่ใช้ต้องยอดเยี่ยมด้วย เพราะไม่แน่เหมือนกันว่า หากนายเจอรี่คว้าปืนธรรมดาๆ ที่ชาวบ้านร้านตลาดเขาใช้กันไปยิง เขาอาจไม่สามารถสร้างสถิติโลกที่สวยสดงดงามอย่างนี้ขึ้นมาได้ ส่วนทางด้านองค์ยุทธวิธีนั้น ต้องยกให้เป็นความสามารถเฉพาะตัวของนายเจอรี่ที่ยอดเยี่ยมสมกับสมญานามที่ได้มา
การพิจารณาที่กล่าวมา ทำให้ชาวปืนต้อง "คิดใหม่ ทำใหม่" และหันมาให้ความสนใจกับเอ็ม 627 พีซี วีคอมพ์ กันอย่างมาก เพราะปืนกระบอกนี้จะเป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า สถิติโลกข้างต้นเกิดขึ้นจากอะไร คนหรืออุปกรณ์ หรือว่าทั้งสองอย่างรวมกัน เอ็ม 627 ฝีมือศูนย์เพอฟอร์มานซ์ เซ็นเตอร์หรือพีซี เข้ามาเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ.2540 โดยการซิ่งด้วยการถอดลำกล้องเดิมออก ใส่ลำกล้องของพีซียาว 5 นิ้วเข้าไปแทน เปลี่ยนโม่ 6 นัดออก นำโม่จุ 8 นัด ใส่แทน และที่สำคัญก็คือการนำระบบเข็มแทงชนวนลอยฝังในโครงปืนมาใช้เป็นครั้งแรก พอปีต่อมา เอ็ม 627 พีซี ก็เข้ามาอีกรุ่นหนึ่ง คราวนี้เปลี่ยนไปใช้ลำกล้องยาว 6 นิ้วแบบมีฝักหุ้มก้านคัดปลอกยาวตลอด ทำหน้าที่เป็นเหวทถ่วงน้ำหนัก โดยมีช่องบรรจุตุ้มถ่วงน้ำหนักบริเวณฝักหุ้มก้านคัดปลอกนี้ด้วย เจ้าของปืนสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนตุ้มถ่วงน้ำหนัก ส่วนโม่ยังเป็นแบบจุ 8 นัดเช่นเดิม
ในปี 2542 สมิธฯ
นำเสนอ เอ็ม 627 พีซี รุ่นใหม่ออกมา โดยมีความแตกต่างจากทั้งสองกระบอกรุ่นพี่อย่างสิ้นเชิง
เพราะ เอ็ม 627 พีซีใหม่นี้เกิดจากความตั้งใจจะให้ปืนกระบอกนี้เป็นปืนพกจริงๆ
ไม่ใช่ปืนในระดับแข่งขันยิงเป้า เพราะลำกล้อง ศูนย์หน้าเป็นแบบมิลเล็ททรงสูงทำเป็นลิ่ม ใบศูนย์รมดำ หลังใบศูนย์ฝังพลาสติก สีส้มสะท้อนแสง ศูนย์หน้าแบบนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยดันใบศูนย์ไปด้านหลังและถอดออก ส่วนศูนย์หลังเป็นไมโครมิเตอร์ ปรับได้ 4 ทิศทาง ตัดกรอบร่องบากด้วยเส้นขาว ซึ่งแตกต่างจากเอ็ม 627 พีซีรุ่นก่อน ซึ่งไม่มีการตัดกรอบร่องบากของศูนย์หลัง ศูนย์หลังยังสามารถถอดออกได้ด้วยเช่นกัน เมื่อต้องการจะติดตั้งศูนย์กล้อง เพราะได้เจาะรูตรงโครงโม่ด้านบน 3 รู เพื่อใช้เป็นฐานศูนย์
ตรงบริเวณฝักหุ้มก้านคัดปลอกนั้น เนื้อโลหะถูกปาดออกจนมองเห็นก้านคัดปลอก และที่สำคัญก็คือก้านคัดปลอกของปืน กระบอกนี้จะไม่มีปุ่มล็อกอยู่ด้านหน้าเช่นเดียวกับปืนทั่วไป แต่วางตัวอยู่ลอยๆ อย่างนั้นเอง และหมุนตัวไปตามโม่ ในเรื่องระบบล็อกโม่ สมิธฯ พีซี ได้นำเอาระบบล็อกโม่แบบทริบเปิลล็อกมาใช้ในเอ็ม 627 พีซีตัวใหม่ด้วยการ ฝังปุ่มล็อกโม่ไว้ที่บานพับโม่ และยึดเข้ากับด้านล่างของฝักหุ้มก้านคัดปลอก ซึ่งตรงกันข้ามกับเอ็ม 627 พีซี รุ่นที่เข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งฝังปุ่มล็อกโม่ไว้ที่ฝักหุ้มก้านคัดปลอกและล็อกเข้ากับบานพับโม่ โม่เป็นแบบโม่เกลี้ยง ไม่เซาะร่อง (UNFLUTED) บรรจุ 8 นัด พอถึงปีนี้
เอ็ม 627 พีซี มาในรูปโฉมใหม่ เรียกชื่อว่า เอ็ม 627 พีซี วีคอมพ์ หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า
เอ็ม 627-วี 8 เป็นปืนที่เพอฟอร์มานซ์เซ็นเตอร์ของสมิธฯ ผลิตออกมาสำหรับนักกีฬายิงปืนระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ
โดยมาพร้อมกับกล่อง บรรจุปืนทำด้วยโลหะสีขาวมีโลโก้ของพีซีอยู่ตรงกลางเด่นเป็นสง่า
ภายในกล่องบุนวมอย่างดี มีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้กับปืน กระบอกนี้มาให้ด้วย
นั่นคือฟูลมูนคลิพหรือแป้นบรรจุกระสุนสำหรับการบรรจุเร็ว จำนวน 3 อัน ประแจสำหรับคัดปลอกออก
จากฟูลมูนคลิพ 1 อัน นอกจากนั้นยังมีคอมเพ็นเซเตอร์อีกตัวหนึ่งที่ไม่มีห้องพักแก๊ส
แต่เป็นคอมพ์กักแก๊ส จำนวน 1 อัน มีไว้ทำไม จะเฉลยให้ทราบภายหลัง อุปกรณ์ที่มีมาด้วยอีกอย่างคือ
ประแจหัวหกเหลี่ยมตัวแอล 1 อัน มีไว้ถอดคอมเพ็นเซเตอร์ที่ติดมากับตัวปืนออกและที่แน่นอนคือ
กุญแจล็อกไก (TRIGGER LOCK) ซึ่งมีมาตาม
ปืนเอ็ม 627
วีคอมพ์ เป็นปืนที่นำปืนเอ็ม 627-3 มาเป็นโครงสำหรับตกแต่ง หากเปรียบเทียบปืนกระบอกนี้กับปืนที่เข้ามาในเมืองไทยเมื่อปี
'42 ปืนกระบอกนี้มีความแตกต่างในหลายๆเรื่อง เรื่องแรกคือลำกล้อง ปืนกระบอกนี้ไม่ใช่ปืนลำกล้องสั้นอีกต่อไป
แต่มีลำกล้องยาว 4.75 นิ้ว ตัวลำกล้องไม่ปาดเนื้อโลหะด้านข้างออกแบบเล่นระดับอีกแล้ว
แต่ทำเป็นทรงแบนๆ และตกแต่งมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ โดยมีคอมเพ็น เซเตอร์หรือเรียกสั้นๆ
ว่า "คอมพ์" ที่มีห้องพักแก๊ส 3 ห้อง ครอบเข้าไปหน้าลำกล้องปืน
ตัวคอมพ์ยาวถึง 1 นิ้วกว่าๆ จึงทำให้หาก ถอดคอมพ์ออกจะมองเห็นส่วนของลำกล้องที่ตัวคอมพ์ครอบไว้โผล่ออกมาคล้ายๆ
กับปืนเบเร็ตต้าที่มีลำกล้องยื่นออกจากส่วนหน้าของลำเลื่อน พอถึงตรงนี้พีซีเขาก็มีเจ้าคอมพ์พักแก๊สที่มีรูปร่างเหมือน
ด้านข้างลำกล้องไม่มีคำว่า".357 Mag 8 X" อีกต่อไป แต่พิมพ์คำว่า ".357 MAG -V8" แทน ศูนย์หน้าเป็นแบบมิลเล็ท ทรงสูงเหมือนเดิม แต่ไม่ฝังพลาสติกสีส้มสะท้อนแสงที่หลังใบศูนย์ ศูนย์หลังเป็นไมโครมิเตอร์ ปรับได้ 4 ทิศทาง และไม่มีการตัดกรอบร่องบากด้วยเส้นขาว ระบบล็อกโม่ด้านหน้าโม่ยังมีเหมือนเดิม ปืนกระบอกนี้มีโม่บรรจุ 8 นัด เหมือนรุ่นก่อนๆ แต่เป็นแบบเซาะร่อง มีฟูลมูนคลิพให้มาด้วย 3 อัน ลองนึกกันเล่นๆ หากยิงพร้อมกันหมดโดยบรรจุลูกไว้ในโม่ก่อน 8 นัด ก็จะสามารถยิงได้ถึง 32 นัด เรียกได้ว่าศึกใดที่ว่ายืดเยื้อ ปืนกระบอกนี้รับได้หมด แต่อย่างไรก็ตาม การยิงธรรมดาแบบไม่รีบเร่งก็ไม่จำเป็นต้องใช้ฟูลมูนคลิพครับ เพราะพีซีเขาปาดท้ายโม่เป็นหลุมกว้าง ทำให้การสอดกระสุนและการใช้ฟูลมูนคลิพทำได้สะดวกพอๆกัน สิ่งหนึ่งที่พีซีเขาบรรจงแต่งให้เหมาะสมกับปืนที่จะเป็นคู่มือของเจอรี่ มิชเลก ราชันแห่งปืนลูกโม่ ก็คือเขาขอให้นายเจอรี่ ออกแบบด้ามขึ้นมาสำหรับปืนกระบอกนี้โดยเฉพาะ เรียกว่าด้ามเจอรี่มิชเลก วูดเด็น คอมแบ็ทกริพ เป็นด้ามที่ใช้ฝีมือจัดทำพิเศษ ด้วยการนำไม้ 2 ชิ้นมาเหลาให้เข้ารูปและประกบติดกัน ดูเผินๆเหมือนไม้ชิ้นเดียว และยึดด้วยสกรูตัวเดียวที่ส้นด้ามเหมือนด้ามยางของฮ็อก ทำให้ดูสวย จับก็ถนัดมือดีมาก เสียอย่างเดียวอาจลื่นเพราะผิวด้ามเรียบ ไม่เกาะมือเวลามีเหงื่อมากๆ ในด้านระบบไกของปืนกระบอกนี้ พีซีเขาแต่งมาตั้งแต่โรงงานน้ำหนักไกวัดได้ไม่ถึง 2 ปอนด์ ในแบบซิงเกิลแอ๊คชั่น ในขณะที่ไกดับเบิลก็วัดได้เพียง 6 ปอนด์ เท่านั้น ไกเบาระดับแตะลั่นอย่างนี้เหมาะกับมืออาชีพหรือนักแข่งครับ เพราะสามารถ ควบคุมการยิงได้ดีและช่วยให้ยิงได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น เนื่องจากมีเวลาพอสมควรในการยิง แต่หากเป็นนักนิยมปืนมือใหม่ ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการยิงปืนกระบอกนี้เสียหน่อยครับ เพราะปืนอาจลั่นได้โดยง่าย เพราะไกเบาเหลือกำลัง ปืนกระบอกนี้สามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lewhorton.com ครับ
การยิงทดสอบในวันนั้นเรายิงด้วยลูก .38 หัวตะกั่ว หัวกลมแบบราวด์โนสในระยะ15 เมตรโดยใช้คอมพ์ที่มีห้องพักแก๊ส 3 ห้อง ผลปรากฏว่า ผู้ทดสอบสามารถนำกระสุนเข้าไปอยู่ในวงเก้า วงสิบได้สบายๆ โดยไม่ได้ปรับศูนย์ใดๆ การดีดดิ้นของปืนไม่มีปรากฏการบรรจุกระสุนทั้งแบบใช้ฟูลมูนคลิพและไม่ใช้ทำได้รวดเร็ว อย่างนี้ถูกใจนักกีฬายิงปืนที่ต้องการความรวดเร็วในการยิงอย่างแน่นอนครับ ปืนกระบอกนี้
ห้างฯ ปืนธง สั่งเข้ามาเพื่อเข้าชิงรางวัล SMITH & WESSON CLASSIC 2001 โดยเฉพาะ
เชื่อว่าในวันนั้นต้องมีปืนฝีมือศูนย์เพอฟอร์มานซ์เซ็นเตอร์หรือพีซีอยู่ในมือนักกีฬาไม่ท่านใดก็ท่านหนึ่งแน่ๆ
และเชื่อแน่ว่า |
||||||||||||||||||||
นิตยสารอาวุธปืน
ฉบับที่ 323 กันยายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ
|
Copyright
©2000 www.gunsandgames.com
Powered by eighteggs.com