ธอมป์สัน
คอนเทนเดอร์ การเรียกปืนกระบอกใดกระบอกหนึ่งว่าเป็นปืนยาว หรือปืนสั้น ตามความเข้าใจของไทยเรากับของอเมริกา ไม่ค่อยจะเหมือนกันนัก สำหรับของอเมริกาเขาจะถือว่า ปืนยาวต้องมีพานท้ายและลำกล้องยาวมากกว่า 16 นิ้ว ส่วนปืนสั้นก็ต้องลำกล้องไม่เกิน 16 นิ้ว กับห้ามมีพานท้าย แต่พอมาดูในบ้านเราก็ปรากฏว่าไม่ได้กำหนดตรงนี้ไว้ชัดเจน เท่าที่ผมสังเกตดูทางราชการของไทยเราจะถือเอาตามใบอนุญาตสั่งนำเข้ากับตามที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดมาเป็นหลัก ดังนั้น คนไทยเราจึงอาจจะใช้ปืนยาวที่มีพานท้ายและลำกล้องสั้นเพียง 10 นิ้วได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ทีนี้บังเอิญว่ากฎหมายของเราไปห้ามปืนยาวไรเฟิลที่ทำงานในระบบกึ่งอัตโนมัติ ดังนั้น เราจึงต้อง จำกัดความยาวลำกล้องของปืนสั้นเอาไว้เพียง 160 มม. (พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 6 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 ข้อ 2 (3) ก) เพื่อป้องกันนักเลงปืนหัวหมอแอบสั่งปืน AR-15 โดยใช้ใบ ป.2 ของปืนสั้น ผมไม่ค่อยเห็นพ้องกับกฎหมายปืนของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจาก ปืนที่ใช้ในกีฬายิงเป้าแผ่นเหล็กส่วนใหญ่จะทำลำกล้องยาว 14 นิ้ว การสั่งปืนแบบนี้เข้ามาในบ้านเราจึงต้องใช้ใบ ป.2 ของปืนไรเฟิล ทีนี้เมื่อเราแปลใบอนุญาตเป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องระบุว่าเป็นปืนไรเฟิลตามไปด้วย เหตุที่ต้องส่งใบ ป.2 ฉบับภาษาอังกฤษไปก็เพื่อให้คนขายปืนในต่างประเทศที่เขาจะต้องเอามาใช้ใน การขอใบอนุญาตส่งปืนออกนอกประเทศหรือที่เรียกกันว่า Export License ซึ่ง ตามปกติแล้วการส่งอาวุธปืนออกไปขายต่างประเทศ ผู้ขายจะต้องขอใบอนุญาตส่งออกเสมอ มีรัฐบาลใจกว้างเพียงไม่กี่ประเทศหรอกครับที่ยอมให้ส่งปืนอัดลม และปืนลูกกรดออกไปขายนอกประเทศได้โดยไม่ต้องใช้ Export License แต่สำหรับปืนที่ใช้กระสุนชนวนกลางแล้ว ทุกประเทศจะกำหนดให้ทำใบอนุญาตส่งออกทั้งนั้น
ปัญหาอยู่ตรงนี้เองครับ สมมุติว่าผมอยากได้ปืน เวเธอร์บี MK.5 CFP ลำกล้อง 15 นิ้ว หรือธอมป์สัน คอนเทนเดอร์ ซูเปอร์ 14 ซึ่งตามกฎหมายของอเมริกาเขาถือว่าเป็นปืนสั้น แต่ในเมื่อเราใช้ใบ ป.2 สำหรับ ปืนไรเฟิลเพื่อจะสั่งปืนแบบนี้เข้ามา ทางประเทศต้นทางยังไงๆเขาจะไม่อนุญาตให้อย่างแน่นอนเพราะเมื่ออ่านใบ ป.2 ของเราฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษแล้ว เขาก็ย่อมจะต้องเชื่อว่ารัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะให้อีตาคนนี้แกซื้อปืนไรเฟิล ไม่ใช่ซื้อปืนสั้นตามความหมายในระบบกฎหมายของเขา ยังไงๆ ก็ฝากเรื่องนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งกำกับดูแล กฎหมายอาวุธปืนของเราเอาไว้ด้วยนะครับ ว่าพอจะผ่อนผันพวกปืนสั้นบรรจุเดี่ยว ลำกล้องยาว 14 นิ้วหรือ 16 นิ้ว ได้หรือเปล่า หรืออาจจะเป็นว่าให้ใช้ ป.2 ไรเฟิลอย่างเก่า แต่มีวงเล็บว่าให้รวมถึงปืนสั้นบรรจุเดี่ยวด้วย แต่ไม่ใช่ว่าผมจะเห็น ATF ของอเมริกาดีกว่าสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ของเราหรอกนะครับ อเมริกาเขาก็มีปัญหาตรงนี้เหมือนกันเพราะปืนคาบลูกคาบดอกบางแบบ อย่างเช่น TC หรือธอมป์สัน คอนเทนเดอร์ ที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้ สามารถเปลี่ยนสภาพตัวเองกลับไปกลับมาระหว่างปืนสั้น กับปืนยาวได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่กระดาษแผ่นเดียวหรอกครับ แต่ว่ามันหมายถึงการทำบัญชี เก็บสถิติ หรือว่าการออกใบอนุญาตล่าสัตว์ ให้กับปืนแต่ละประเภท รวมทั้งกระบวนการ บังคับใช้กฎหมาย เพราะหลายๆเมืองในอเมริกาจะจำกัดการขายปืนสั้น แต่มักจะให้ เสรีกับปืนไรเฟิลเพราะปืนยาวมันมีขนาดใหญ่โตเก้งก้าง แบกหามเอาไปทำผิดกฎหมายได้ลำบากกว่าปืนสั้น ซึ่งตรงนี้ออกจะแปลกกว่าบ้านเราที่จ้องจะคอยห้ามปืนไรเฟิลอย่างเดียว โดยหาว่าจะเอาไปใช้ ล่าสัตว์ทั้งๆที่การล่าสัตว์เป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว
ผมดูๆแล้วเห็นว่านโยบายนี้ออกจะดูหมิ่นความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์มากไปสักหน่อย เห็นว่าเขาไม่มี ปัญญาจะกวดขันจับกุมพวกลักลอบล่าสัตว์หรือไงครับ ถึงได้พยายามจะห้ามการออกใบอนุญาตปืนไรเฟิล ธอมป์สัน/เซ็นเตอร์ คอนเทนเดอร์ ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 หรือสามสิบกว่าปีมาแล้ว ในระยะแรก TC ยังมี เฉพาะเวอร์ชั่นปืนสั้น คือมีลำกล้องให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไปจนถึง 16 นิ้ว แล้วก็ออกมาทั้งลำกล้องแบบชนวนริมและชนวนกลาง สำหรับพวกชนวนริมจะมีขนาด .22LR, .22 แม็กนั่ม แล้วก็ 5 มม. เรมิงตัน ส่วนพวกชนวนกลางก็จะเริ่มตั้งแต่ .218 บี, .22 ฮอร์เน็ต, .221 ไฟร์บอล, .222 เรฯ, .223 เรฯ, .256 วินฯ, .25-35 WCF, .30 คาร์ไบน์ ถ้าจะเขียนไล่หมดให้ทุกขนาดคงจะประมาณครึ่งหน้ากระดาษ เอาเป็นว่ากระสุนดุๆ อย่างเช่น .30-30 วินฯ, .375 วินฯ, .45-70, .45 วินฯแม็กฯ, .454 คาซูล พวกนี้ TC มีให้ เล่นทั้งหมด แม้แต่ .357 แม็กซิมั่มที่มีปัญหากับปืนรีวอลเวอร์ แต่พอเอามาใช้กับ TC ก็ยิงได้ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ส่วน TC ในรูปลักษณ์ของปืนยาวแบบที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้ เป็นปืนที่ทำตามหลัง TC แบบปืนสั้นเกือบยี่สิบปี คือเริ่มผลิตออกมาในปี ค.ศ. 1985 ระบบกลไกเหมือนกับปืนสั้นทุกอย่างเพียงแต่ใส่พานท้ายกับใช้ลำกล้องยาว 21 นิ้ว นอกจากรุ่น "เยาวชน" หรือ Contender Youth Model ที่ใช้ลำกล้อง 16.25 นิ้ว คือยืดลำกล้องจากรุ่นปืนสั้น ออกไป 2 หุนไม่ให้ผิดกฎหมาย แต่โครงปืนก็อันเดิมนั่นละครับ ถอดพานท้ายออกแล้วใส่ด้ามปืนสั้นได้เลย
การทำงานของ TC เป็นระบบบรรจุทีละนัดคล้ายกับปืนลูกซองเดี่ยวหรือคอลท์ ตราควายที่มือปืนรับจ้างยุคเมื่อสี่สิบปีก่อนนิยมใช้กันอยู่เพียงแต่ TC ทำออกมาประณีต มั่นคงแข็งแรง และสวยงามมากกว่าเท่านั้นเอง วิธีหักลำกล้องก็ทำได้ง่ายๆ คือ ถือปืนไว้ในแนวระดับ แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง ช่วยกันเหนี่ยวโกร่งไกเข้ามาหาด้ามปืน น้ำหนักลำกล้องจะถ่วงให้เกิดการหักลำลงไปเอง ไม่ต้องบิด ไม่ต้องตบใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้นการง้างโกร่งไกยังเป็นการเซ็ตไกอีกด้วย ดังนั้น เมื่อง้างโกร่งไกแล้ว เราจึงสามารถทดลองลั่นไกเปล่าหรือยิงแห้งได้ คล้ายๆกับระบบลั่นไกของปืนสั้นยิงช้า แต่เมื่อเราทดลองลั่นไกไปแล้ว ถ้าจะลองเหนี่ยวไกอีกครั้งหนึ่งเราก็จะต้องง้างโกร่งไก เพื่อเซ็ตไกอีกครั้งเสียก่อนถึงจะลั่นไกได้ นอกจากนั้นเมื่อเราเหนี่ยวไกไปแล้วเราก็จะง้างนกไม่ได้ คือง้างออกมาก็ได้อยู่หรอก แต่เซียร์จะไม่จับนกปืนไว้ให้ ต้องมีการง้างโกร่งไกเพื่อเซ็ตไกเสียก่อนถึงจะง้างนกได้
ดังนั้น การใช้งานของปืนก็ทำได้ง่ายๆ คือง้างโกร่งไกเพื่อหักลำ สอดกระสุนเข้าไปในรังเพลิง ง้างนกแล้วก็เหนี่ยวไก แต่ถ้ายังไม่ต้องการจะยิงในขณะนั้นเราก็อาจจะ "เข้าห้ามไก" โดยการบิดกระเดื่องบังคับหมุด ตีเข็มแทงชนวนเอาไว้ตำแหน่งกลาง เผื่อว่านกหลุดฟาดลงไปก็จะไม่สัมผัสกับเข็มแทงชนวนเข็มใดเข็มหนึ่ง แล้วถ้าไม่มีเหตุจะต้องใช้ปืนเป็นเวลานานๆ เราก็อาจจะลดนกปืนโดยวิธีเดียวกับปืนลูกโม่หรือปืนออโต โดยการ ใช้นิ้วรั้งหางนกแล้วเหนี่ยวไก ค่อยๆผ่อนนกปืนลงไป แต่การลดนกอย่างที่ว่าไม่ใช่วิธีที่โรงงานแนะนำให้ทำ เพราะนกปืนจะเดินหน้าได้จนถึงเข็มแทงชนวน ถ้าเกิดเราลืมโยก กระเดื่องมากึ่งกลางแล้วเผลอทำนกปืนหลุดมือก็อาจจะเกิดอันตรายจากปืนลั่นได้ด้วย นอกจากนั้นแล้วการลดนกโดยใช้วิธีเหนี่ยวไก ก็ยังทำให้เราต้องเซ็ตไกใหม่ เพราะว่ามีการ เหนี่ยวไกไปแล้ว วิธีลดนกที่โรงงานแนะนำมาก็คือใช้นิ้วรั้งหางนกเอาไว้ ง้างโกร่งไกแล้วค่อยๆ ผ่อนนกปืนลงไป การลดนกด้วยวิธีนี้ นกปืนจะถูกบล็อกไม่ให้เดินหน้าถึงเข็มแทงชนวน และไกปืนก็ยังเซ็ตตัวอยู่ สามารถง้างนกอีกครั้งหนึ่งได้ทันที
TC กระบอกนี้เป็นรุ่นพิเศษที่ห้างฯ ม.ฮะกีมี สั่งเป็นแบบลำกล้องหนาเข้ามา ซึ่งเป็นลำกล้องพิเศษจากคัสตอมช็อปของ ธอมป์สันเอง ทำให้ได้ลำกล้องที่มีการแล็ปเกลียวลำกล้องมาเรียบลื่นเป็นพิเศษ และ ยังรมดำเงางามจนใครเห็นก็ต้องออกปากชมกันทุกคน บางท่านยังสงสัยว่าจะมาเปลี่ยนลำกล้องกันเองในบ้านเรา เพราะไม่เคยเห็นปืนโรงงานที่รมดำลึกและเงางามแบบนี้มาก่อน ซึ่งออกจะสบประมาทโรงงานในต่างประเทศ ไปสักหน่อย จะเอาสวยขนาดไหนฝรั่งมันทำให้ได้ทั้งนั้นละครับ ขอให้มีเงินจ่ายก็แล้วกัน ถึงแม้ว่า TC จะทำใช้กระสุนมากมายหลายขนาดก็ตาม แต่ในบ้านเรามีข้อจำกัดในเรื่องกระสุน ไปใช้แปลกเกินไปก็อาจจะหากระสุนมายิงไม่ได้ ดังนั้น ม.ฮะกีมี จึงเลือกสั่งมาเฉพาะขนาด .223 เนื่องจากเป็น กระสุนที่ออกจะหาง่ายหน่อย ลำกล้อง .223 ของ TC กระบอกนี้ใช้เกลียวเวียนขวา ครบรอบที่ 12 นิ้วเหมือนกับปืน M16 A1 และปืน .223 พาณิชย์อื่นๆโดยทั่วไป
ถ้าท่านผู้อ่านติดตามเรื่องเกี่ยวกับเกลียวลำกล้องปืน
.22 คงจะจำได้ว่าปืนลูกกรดชนวนริมที่เป็นปืนยาวมักจะใช้เกลียว 1-16 และปืนสั้นลูกกรดซึ่งให้ความเร็วกระสุนต่ำกว่าปืนยาว
ก็จะต้องใช้เกลียวเร็วขึ้นเป็น 1-12 ถึง 1-14 ถึงจะได้จำนวนรอบการหมุนตัวเพียงพอที่จะประคองหัวกระสุนให้วิ่งไปตรงๆได้
ส่วนปืน .22 ชนวนกลาง ซึ่งมีหัวกระสุนยาวกว่าปืนลูกกรด จึงต้องใช้เกลียวเร็วขึ้น
ซึ่งมักจะอยู่ที่ 1-14 กันเป็นมาตรฐาน แต่เหตุที่ .223 นิยมใช้เกลียว 1-12
ก็เป็นเพราะไปใช้ตามปืน M16 A1 ของทหารที่ใช้เกลียวขนาดนี้
อวป. นำ TC .223 ไปยิงทดสอบที่สนามยิงปืนค่ายนวมินทร์ฯ ชลบุรี วันนั้นเราได้เตรียม TC .223 ลำกล้องสั้นเพียง 10 นิ้ว มายิงเปรียบเทียบกันอีกกระบอกหนึ่ง ส่วนกระสุนเราเลือกใช้กระสุนแข่งขัน หัวหนัก 53 เกรนซึ่งทำความเร็วกับลำกล้อง 21 นิ้วได้ประมาณ 3,250 ฟุต/วินาที แต่พอเอามายิงกับลำกล้อง 10 นิ้ว ซึ่งสั้นลงไป กว่าเท่าตัว ปรากฏว่าความเร็วกระสุนก็หายไปร่วมครึ่งหนึ่งเหมือนกัน คือวัด 5 นัด ออกมาได้ค่าเฉลี่ยเพียง 1,750 ฟุต/วินาที คำนวณออกมาเป็นพลังงานได้เพียง 360 ฟุต-ปอนด์เท่านั้นเอง อ่อนกว่ากระสุน 9 มม. เสียอีก ออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกันเพราะจำได้ว่าเคยวัดกับลำกล้อง 14 นิ้วได้ประมาณ 2,750 ฟุต/วินาที พอลำกล้องหายไปอีก 4 นิ้ว ทำไมความเร็วถึงได้ลดวูบวาบลงไปถึงขนาดนี้
TC เป็นปืนที่มีความแม่นยำสูงมากก็จริง แต่ยังไม่ถึงกับจะเอามายิงแข่งขันกับปืนลูกเลื่อนชั้นดีได้ จึงเหมาะสำหรับการ ยิงเป้าแผ่นเหล็กซิลลูเอ็ทหรือใช้ยิงผ่อนคลายอารมณ์มากกว่า หรือถ้าพูดแบบไม่สร้างสรรค์ ก็คือเหมาะสำหรับการใช้ในงานพิเศษบางแบบ เพราะเมื่อใส่ด้ามปืนสั้นกับลดความยาวลำกล้องเหลือเพียง 10 นิ้ว ซึ่งจะทำให้บรรจุลงไปในกระเป๋าเอกสารธรรมดาได้ แล้วยังยิงทำกลุ่มกระสุนขนาดฝ่ามือปิดมิดในระยะ 100 เมตร แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว สำหรับราคาที่ติดปืนไว้คือ 65,000 บาท ส่วนผู้ส่งทดสอบคือ ห้างฯ ม.ฮะกีมี อยู่ถนน เจริญกรุง ใกล้สี่แยกอุณากรรณ กรุงเทพฯ หรืออาจโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่หมายเลข (02) 2227791, (02) 2228371 โทรสาร (02) 2265924 |
|||||||||||||||||||
นิตยสารอาวุธปืน
ฉบับที่ 323 กันยายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ
|
Copyright
©2000 www.gunsandgames.com
Powered by eighteggs.com