เทารัส โมเดล 85 อัลตร้าไลท์
ปืนกระเป๋า เบาหวิวจากบราซิล

ชื่อเทารัสสำหรับชาวบ้านร้านตลาดต้องเป็นอะไรที่ไม่คุ้นหู แต่สำหรับชาวปืนและแฟนๆ นิตยสารฉบับนี้ คำนี้เรารู้จักกัน มานานกว่า 30-40 ปีแล้ว ปืนของเทารัสมีชื่อเสียงที่ไม่ใคร่ดีนักในสมัยก่อน แต่ในปัจจุบันเป็นหนังคนละม้วน เทารัสก้าวล้ำไปจนกลายเป็นผู้ผลิตปืนแถวหน้าของโลกอย่างเต็มตัวแล้ว ปืนของเทารัสในบ้านเรามีทั้งแบบเหล็กรมดำและเหล็กสเตนเลสส์ แต่ที่นิยมกันเห็นจะเป็นแบบเหล็กสเตนเลสส์ ซึ่งอ๊อด บ้านโป่ง เคยบอกไว้เมื่อต้นปีว่า ปืนในรูปแบบเหล็กสเตนเลสส์ของเทารัสจะทำออกมาในลักษณะซีรีส์ โดยใช้ตัวเลขเป็นชื่อบอกแบบ ได้แก่

เทารัส โมเดล 85 อัลตร้าไลท์ ขนาด .38 สเปเชียล

1. ซีรีส์ 9 ได้แก่ ปืนที่มีชื่อโมเดลนำหน้าด้วยเลข 9 เช่น โมเดล 94 เป็นต้น ปืนรุ่นนี้จะใช้กระสุนขนาด .22 (.22 แอลอาร์ หรือ .22 แม็กนั่ม)
2. ซีรีส์ 8 ได้แก่ ปืนที่มีชื่อโมเดลนำหน้าด้วยเลข 8 เช่น โมเดล 85 เป็นต้น ปืนรุ่นนี้จะใช้กระสุนขนาด .38 สเปเชียล
3. ซีรีส์ 6 ได้แก่ ปืนที่มีชื่อโมเดล นำหน้าด้วยเลข 6 เช่น โมเดล 65 เป็นต้น ปืนรุ่นนี้จะใช้กระสุนขนาด .357 แม็กนั่ม
4. ซีรีส์ 4 ได้แก่ ปืนที่มีชื่อโมเดล นำหน้าด้วยเลข 4 เช่น โมเดล 44 เป็นต้น ปืนรุ่นนี้จะใช้กระสุนขนาด .44 (.44 สเปเชียล หรือ .44 แม็กนั่ม)
และบอกไว้ด้วยว่า ปืนเทารัสในเมืองไทยที่ได้รับความนิยม เป็นซีรีส์ 8 และซีรีส์ 6 เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากใช้กระสุนที่หาง่ายและมีอำนาจยับยั้งที่เหมาะสมกับการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน

สำหรับปืนเทารัสที่จะกล่าวถึงในวันนี้ เป็นปืนที่บ้านเรานิยมกันมากรุ่นหนึ่ง นั่นคือ โมเดล 85 ปืนรุ่นนี้เป็นปืนรีวอลเวอร์ โครงขนาดเล็ก ใช้กระสุนขนาด .38 สเปเชียล ตัวปืนทำจากเหล็กรมดำและเหล็กสเตนเลสส์ ลำกล้องสั้น ใช้พกพาเป็นปืนแบ็กอัพหรือปืนสำรอง ปืนกระบอกนี้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ในรูปแบบที่ละม้ายคล้ายคลึงปืนรีวอลเวอร์ของสมิธฯ รุ่นชีฟ สเปเชียล ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการและรูปทรง แต่มีลักษณะพิเศษที่เพิ่มขึ้น นั่นคือ ใช้ระบบเข็มแทงชนวนลอยฝังในโครงปืน และมีระบบความปลอดภัยแบบทรานสเฟอบาร์ รับแรงกระแทกจากนกสับไปยังเข็มแทงชนวน ลำกล้องมี 5 ร่องเกลียวเวียนขวา โม่บรรจุ 5 นัด หมุนทวนเข็มนาฬิกาและปุ่มปลดโม่ หรือทั้มพีซที่มีลักษณะกลมแบน เหมือนปืนสมิธฯ (รุ่นเก่า) สปริงนกสับแบบตัวหนอนมีฝักหุ้มก้านคัดปลอกยาวตลอดปลายลำกล้อง แต่เป็นฝักบางๆ ไม่อวบอ้วนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ไกแบบเซาะร่องและประกับด้ามเป็นไม้บราซิลเลียนวอลนัท

ข้างสกรูตัวที่ปลายไขควงชี้อยู่ใช้ถอดเมื่อจะถอดโม่ ส่วนสกรูตัวเล็กอีก 1 ตัว (ด้านซ้ายในภาพ) จะถอดเมื่อต้องการซ่อมชิ้นส่วนภายใน

จาก 11 ปีที่แล้ว เทารัสพัฒนาไปไกล ทุกวันนี้หากเปิดดูแคตตาล็อกของเทารัส ทางอินเตอร์เน็ตที่ www.taurususa.com จะพบว่าเฉพาะโมเดล 85 อย่างเดียว เทารัสเขาก็มีหลายแบบหลายสไตล์ถึง 26 แบบ ซึ่งถ้าจะสาธยายกันทั้งหมดคงไม่พอหน้ากระดาษแน่ครับ อ๊อด บ้านโป่ง จึงขอยกมากล่าวถึงเพียงบางรุ่น อย่างเช่น โมเดล 85B2PRL เป็นปืนลำกล้องยาว 2 นิ้ว ตัวปืนทำด้วยเหล็กคาร์บอนสตีล รมดำขลิบริมสีทอง มีประกับด้ามทำด้วยมุก เจาะพอร์ทที่ปลายลำกล้อง โมเดล 85CHSS2 ลำกล้องยาว 2 นิ้ว ตัวปืนทำด้วยเหล็กสเตนเลสส์ ตัดหงอนนกสับ โมเดล 85TG2C ลำกล้องยาว 2 นิ้ว ตัวปืนทำด้วยไทเทเนียม ประกับด้ามทำด้วยไม้อเมริกันวอลนัท เจาะพอร์ทที่ปลายลำกล้องและโมเดล 85B2UL เป็นปืนลำกล้องยาว 2 นิ้ว ตัวปืนทำด้วยเหล็กคาร์บอนสตีล น้ำหนักเบาพิเศษแบบอัลตร้าไลท์ เป็นต้น

ในวันนี้เราจะพูดถึงปืนโมเดล 85 รุ่นหนึ่งได้แก่ โมเดล 85 อัลตร้าไลท์ (Ultra-Lite) หรือเรียกสั้นๆว่า ยูแอล ปืนโมเดล 85 ยูแอล รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 1997 รูปร่างหน้าตาเหมือน ชีฟ สเปเชียล ของสมิธฯ มาก แต่มีสิ่งพิเศษๆที่แตกต่างไปหลายแห่งปืนกระบอกนี้มีโครงปืนทำจากโลหะผสมอะลูมินั่มแบบ ASTM 7075-T6 ซึ่งมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ แต่จะทำให้น้ำหนักปืนเบาเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามโลหะผสมก็ไม่ สามารถนำมาทำเป็นลำกล้องได้เนื่องจากแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้ของดินปืนจะกัดกร่อนผิว เนื้อโลหะออกไปจนสูญเสียสภาพร่องเกลียวไป ฉะนั้นเทารัสจึงต้องนำลำกล้อง (Barrel Line) ทำด้วยเหล็กสเตนเลสส์สอดไว้ในปลอกลำกล้องที่เป็นโลหะผสม ด้านหน้าลำกล้องปาดโค้งเหมือนลำกล้องของปืนโคลท์ ดีเทคตีฟ สเปเชียล ซึ่งเทารัสเขาทำไว้ประณีตและแนบเนียนมากเมื่อมองจากด้านหน้าไม่รู้เลย ว่ามีตัวลำกล้องที่เป็นเหล็กสเตนเลสส์สอดอยู่ในลำกล้องที่เป็นโลหะผสมด้วย


การถอดโม่เพื่อทำความสะอาด ก็มีเท่านี้
 
ผนังช่องโม่แต่ละช่องหนาแข็งแรง พอรับแรงอัดของกระสุนบวกพีได้ อุปกรณ์ล็อกโม่พิเศษ เป็นลูกปืนอัด สปริง (Ball Detent) บริเวณบานพับโม่ที่ล็อกเข้ากับฝักหุ้มก้านคัดปลอกด้านบน

จุดสำคัญของปืนกระบอกนี้ นอกจากจะอยู่ที่ลำกล้องแล้ว เทารัสเขาได้พิจารณาว่า แรงเตะอันมโหฬารของปืนโครงเล็กน้ำหนัก เบาเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะมีผลข้างเคียงหลายประการ นอกจากอาการสะบัดของลำกล้องที่ยากต่อการควบคุมแล้ว ยังมีผลต่อการล็อกโม่ให้ตรงกับแนวลำกล้องอีกด้วย เพราะแรงเตะมากๆ มีผลต่อระบบล็อกโม่ เทารัส โมเดล 85 ยูแอล กระบอกนี้ ได้เพิ่มเติมอุปกรณ์ล็อกโม่พิเศษขึ้น โดยมีลูกปืนอัดสปริง (Ball Detent) บริเวณบานพับโม่ ที่ล็อกเข้ากับฝักหุ้มก้านคัดปลอกด้านบน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกโม่จะคงอยู่ในแนวที่รังเพลิงตรงกับลำกล้องอยู่ตลอดเวลาในขณะยิง และปล่อยให้ก้านคัดปลอกลอยตัวอยู่ในฝักโดยไม่มีตัวล็อกด้านหน้าเช่นที่มีในปืนทั่วไป

เทารัสยังได้แสดงความประณีตในการผลิตปืนหลายแห่งอีกด้วย เช่นบริเวณด้านขวาใต้กรอบโม่ เขาได้จำหลักซีเรียลนัมเบอร์ของปืนไว้ด้วย อย่างกระบอกนี้ ก็คือ "UA 81442" และตามด้วยคำว่า "MADE IN BRAZIL" เพื่อแสดงแหล่งผลิต การจำหลักข้อความดังกล่าวลงบนผิวปืนทำด้วยวิธีไฟฟ้า นอกจากนั้นที่โครงบานพับโม่ บานพับโม่ ไซด์เพลทและที่โครงด้ามจะตอกหมายเลขไว้ตรงกันเพื่อกันการประกอบชิ้นส่วนผิดตัว ผิดฝา สิ่งที่ต้องชมประการหนึ่งของปืนกระบอกนี้คือ ระบบไกดับเบิลที่เรียบลื่น ไม่ว่าจะเป็นในขณะน้าวไกจนถึงจังหวะล็อกโม่ก่อน นกสับจะสับลง การล็อกโม่ของปืนเทารัสมีเสียง "กริ๊ก" เตือนด้วยว่า หากเพิ่มแรงที่ไกไปอีกนิด นกสับจะสับลง ลักษณะไกดับเบิลอย่างนี้ เรียกได้ว่า สมิธฯ กินไม่ลงทีเดียว

เรานำเจ้าโมเดล 85 อัลตร้าไลท์ ไปยิงทดสอบที่เก่าเวลาเดิม ณ สนามยิงปืนราชนาวี ผู้ทดสอบเริ่มคนแรกโดยแกะกล่อง และนำมายิงเลยด้วยการเล็งแบบจี้ ในจำนวน 5 นัดของผู้ทดสอบอยู่ในวงเก้า 3 นัด วงสิบ 1 นัด มีหลุดไปวงแปด 1 นัด จากนั้นคนอื่นๆ ที่เป็นสต๊าฟยิงทดสอบปืน ก็มาร่วมยิงด้วย ในจำนวนนี้ ดร.เทียนชัย ทำกลุ่มได้ดีที่สุดวัดได้เพียง 1.5 นิ้วเท่านั้น ข้างป๋าตระกูลบอกว่าอย่างไรเสีย ต้องยิงปืนกระบอกนี้พลาดไม่ได้ ขนาดมือซ้ายข้างที่ถนัดเจ็บอยู่ก็ยังอุตส่าห์ไปฮิปมือเดียว โดยใช้มือขวาข้างที่ไม่ถนัด สรุปแล้วในระยะเท่านี้ ปืนกระบอกนี้สามารถทำกลุ่มได้ขนาดนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าพอใจและคุ้มค่าต่อการครอบครองเป็นอย่างยิ่ง

ยแสดงวิธีกำด้ามปืน เมื่อยิงปืนที่มีน้ำหนักเบา การยิงควรจับปืนให้สูงชิดขอบประกับด้ามด้านบน (ภาพบนซ้าย) เพื่อให้แนวแขนตรงกับแนวลำกล้องมากที่สุดและต้องกำปืนให้แน่น หากกำด้ามปืนต่ำ (ภาพบนขวา) จะทำให้ปืนสะบัดมาก ขาดความแม่นยำ การเหนี่ยวไกแบบดับเบิลก็เป็นเรื่องสำคัญครับ ข้อแนะนำก็คือ ควรใช้ข้อที่สองของปลายนิ้วแตะหน้าไกเวลาเหนี่ยวไก (ภาพล่าง) จะทำให้มีแรงเหนี่ยวไกมากและน้าวไกได้อย่างนุ่มนวลครับ


การยิงปืนที่มีน้ำหนักเบามากๆ อย่างปืนกระบอกนี้ การยิงควรจับปืนให้สูงชิดขอบประกับด้ามด้านบนเพื่อให้แนวแขนตรง กับแนวลำกล้องมากที่สุดและต้องกำปืนให้แน่น หากกำด้ามปืนต่ำจะทำให้ปืนสะบัดมาก ขาดความแม่นยำ การเหนี่ยวไกแบบดับเบิลก็เป็นเรื่องสำคัญครับ ข้อแนะนำก็คือควรใช้ ข้อที่สองของปลายนิ้วแตะหน้าไกเวลาเหนี่ยวไก จะทำให้มีแรงเหนี่ยวไกมากและน้าวไกได้อย่างนุ่มนวลครับ

เทารัสในปัจจุบันมีคติประจำก็คือ "ผลิตปืนคุณภาพสูงในขณะที่ราคาไม่แพงเกินงาม" ทุกวันนี้ เทารัสก้าวล้ำนำสมัยจน สามารถพิชิตรางวัล "ผู้ผลิตปืนแห่งปี" และปืนเทารัสรุ่นหนึ่งก็ได้รางวัล "ปืนแห่งปี" จาก Shooting Industry Academy of Excellence แล้ว จึงพอจะพูดได้ว่าเทารัสเป็นผู้ผลิตปืนระดับเวิลด์คลาสได้เต็มปาก และจากการพิจารณาปืนกระบอกนี้ดูก็จะพบว่ามีความละเอียดประณีตในการผลิตที่สูงมาก ไม่มีร่องรอยเครื่องจักรเครื่องไสใดๆ เหมือนปืนในสมัยก่อนๆ การประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกันทำได้ยอดเยี่ยม สังเกตได้จากรอยต่อระหว่างปากกรวยรับกระสุนท้ายลำกล้องกับหน้าโม่ที่มีระยะน้อยมาก รวมทั้งรอยต่อระหว่างบานพับโม่กับโครงปืนที่แนบสนิท เทารัสทุกวันนี้ไม่ใช่ปืนเกรดสองอีกต่อไป แต่เป็นปืนระดับแถวหน้าที่สามารถอวดชาวบ้านได้สบายๆ

ผู้การอ๊อด ผู้ทดสอบยิง 2 มือ ระยะ 15 เมตร และเป้ายิงทดสอบลูกโม่เทารัส (ซ้าย) เป้าทดสอบของ อ.วีระ (ขวา)

ห.จ.ก. ปืนแสงทอง และ ห.จ.ก. ไทยเนชั่นแนลการค้า เคาะราคาปืนเทารัส โมเดล 85 ยูแอล ไว้ที่สี่หมื่นต้นๆ โทร. (02) 221-7808, (02) 225-2428.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 322 สิงหาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com