คิมเบอร์ เอสวีที .22
ลูกกรดยาวตลาดบน สำหรับติดกล้องแข่งขัน

ย้อนหลังไปช่วงปี ค.ศ. 1980 วงการปืนสหรัฐฯ ตื่นเต้นกับบริษัทเกิดใหม่รายหนึ่ง ชื่อ คิมเบอร์ ออฟ โอเรกอน (Kimber of Oregon) ตั้งโรงงานที่เมืองแคล็กกามาส (Clackamas) รัฐโอเรกอน (Oregon) เหมือนในชื่อที่ตื่นเต้นก็เพราะบริษัทนี้ประกาศตัวว่าจะผลิตปืนยาวลูกกรดชั้นเยี่ยม ระดับเดียวกับวินเชสเตอร์ 52 ที่เคยโด่งดังในอดีตไม่เหมือนปืนลูกกรดราคาประหยัดที่ขายกันอยู่ดาษดื่นในตลาดขณะนั้น

ในยุคที่ปืนยังไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นเครื่องมือแห่งความชั่วร้ายเหมือนทุกวันนี้ ปืนยาวลูกกรดมักจะเป็นปืนกระบอกแรกที่พ่อแม่ชาวอเมริกันซื้อให้ลูกเป็นของขวัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่อยู่นอกชานเมืองออกไปในแวดล้อมของป่าเขา หรือมีไร่มีทุ่งกว้างพอที่พ่อจะพาลูกออกไป ยิงปืนเล่นได้โดยไม่รบกวนหรือก่อให้เกิดอันตรายกับเพื่อนบ้าน เมื่อปืนลูกกรดส่วนใหญ่เป็นปืนกระบอกแรกสำหรับเด็กเช่นนี้ ผู้ผลิตปืนจึงมุ่งผลิตให้ราคาต่ำสุด เพียงให้ ใช้งานได้ปลอดภัยด้านคุณภาพเหนือกว่าของเด็กเล่นเล็กน้อย ใช้ไม้ราคาถูก และไม่พิถีพิถันกับการแต่งผิวโลหะ

ภาพเต็มตัวของ คิมเบอร์ เอสวีที

คิมเบอร์ เปิดตัวลูกกรดยาวกระบอกแรกคือ โมเดล 82 (Kimber Model 82) ไม่ว่าจะส่งไปทดสอบกับนิตยสารเกี่ยวกับปืน ฉบับไหนก็มีรายงานกลับมาว่าดีเยี่ยม สวยประณีตมาก รุ่นขายถูกที่สุดเรียกว่า "คลาสสิก" (Classic) แพงขึ้นไปหน่อยเป็น "คัสตอม คลาสสิก" (Custom Classic) และรุ่นสุดยอดคือ ซูเปอร์ อเมริกา (Super America) ซึ่งความแตกต่างอยู่ที่ไม้รางปืนเป็นส่วนใหญ่ รุ่นแพงกว่าใช้ไม้คัดพิเศษแกะลายละเอียด ส่วนโลหะกลไกการทำงานนั้น เหมือนกัน

ช่วงนั้นผมอยู่สหรัฐฯ พอดีครับ ซื้อคิมเบอร์ 82 "คลาสสิก" ไว้กระบอกหนึ่งถึงจะเป็นรุ่นถูกสุดของคิมเบอร์ แต่ถ้าเทียบกับลูกกรดยี่ห้ออื่นก็เหนือกว่ากันมาก ไม้เป็นวอลนัทแท้ ลงน้ำมันด้านโกร่งไกเหล็กหล่อ ขัดแต่งอย่างดีไม่ใช่เหล็กแผ่นปั๊มขึ้นรูป ส้นพานท้ายหุ้มเหล็กแกะลายข้าวหลามตัด แผ่นปิดปลายด้ามคอปืนก็เป็นเหล็ก และร่องผ่าสกรูยึดทั้งห้าตัวชี้ในแนว "เหนือ-ใต้" ตรงกันหมด คือสองตัวที่ยึดแผ่นปิดส้นพานท้ายอยู่ในแนวดิ่ง และสองตัวที่ยึดโครงปืนกับไม้รางปืน กับอีกตัวหนึ่งที่ยึดแผ่นปิดปลาย ด้ามคอปืนนั้น อยู่ในแนวขนานกับลำกล้องอีกกระบอกหนึ่งของเพื่อนคนไทยด้วยกันชี้ ในแนว "ออก-ตก" คือแนวขวางลำกล้อง ก็จะชี้แนวนั้นเหมือนกันหมด กระบอกของเพื่อนผมนี้เป็นแบบ "คัสตอม คลาสสิก" เพิ่มไม้โรสวูด (Rosewood) สีเข้มปิดปลาย กระโจม และลายกันลื่นที่กระโจมนั้นแกะรอบด้านล่างแบบต่อเนื่อง ส่วนของผมมีเพียงสองข้างซ้าย-ขวาครับ

เรื่องร่องผ่าหัวสกรูชี้ทิศเดียวกันที่ศัพท์ ช่างปืนฝรั่งเรียกว่า timed screws นี้ เป็นการ แสดงความประณีตของช่างครับ แทนที่จะทำง่ายๆ ใช้สกรูธรรมดา ต้องเริ่มด้วยสกรู แบบพิเศษ ส่วนหัวหนามาก ครั้งแรกขันให้แน่นได้ที่ก่อนแล้วทำเครื่องหมายไว้ว่าจะบากร่องในแนวไหน จากนั้นถอดสกรูออกมาตัดส่วนหัวที่หนาเกินนั้นให้เหลือเพียงเสมอผิวที่จะขันเข้ายึด แล้วจึงบากร่องในแนวที่ทำเครื่องหมายไว้ ขัดแต่งหัวสกรูตามต้องการสกรูห้าตัวต้องทำอย่างนี้ทีละตัวนะครับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมราคาถึงแพงมาก สี่ห้าปีต่อมาคิมเบอร์ออกรุ่น "ทาร์เก็ต" มีกลุ่มทดสอบมาให้ด้วย แต่เลิกทำสกรูแบบนี้ เปลี่ยนเป็นหัวจมหกเหลี่ยมธรรมดาเพื่อลดต้นทุน

เพราะนโยบาย "คุณภาพนำหน้า ราคาไม่เกี่ยง" เช่นนี้แหละครับ จึงทำให้ยอดขายไม่สูงเท่าที่คาดหวังไว้ คิมเบอร์ผลิต รุ่น 82 อยู่สิบกว่าปี ปรับเปลี่ยนแบบลูกเลื่อนสองครั้ง ก็ต้องเก็บข้าวของม้วนเสื่อเลิกกิจการ ปิดบ้านที่โอเรกอน หานายทุนเข้าหุ้นกันใหม่ ไปซื้อโรงงานของเจริคโคเดิมที่เมืองยองค์เกอร์ (Yonker) รัฐนิวยอร์ก (New York) โรงงานนี้ เครื่องจักรเครื่องมือพร้อม แต่เสียจังหวะที่หมดยุคสงครามเย็นรัฐบาลสั่งซื้อน้อยลง ต้องเลิกกิจการเช่นกัน นายทุนใหม่ของ คิมเบอร์สั่งเก็บแบบผลิตปืนยาวเข้าลิ้นชักไว้ ชั่วคราว เบนเข็มมาผลิตปืนพก 1911 แทน เพราะวิเคราะห์ตลาดแล้วโอกาสดีกว่า เน้นคุณภาพสูง ราคาไม่แพงมาก ชั่วไม่ถึงห้าปี คิมเบอร์ก็ผงาดขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งในหมู่ผู้ผลิตปืนอมตะรุ่นนี้

ดร.ผณิศวร ผู้เขียน และหมอจันทร์ ยิงทดสอบ ที่ 50 เมตร

ตั้งเนื้อตั้งตัวได้จากการขายปืนสั้น เป็นแสนๆกระบอกแล้ว คิมเบอร์เริ่มหันกลับมาให้ความสนใจกับปืนยาวระดับเหนือตลาด ที่เป็นของรักเดิม แต่คราวนี้เริ่มจากปืนยาว ชนวนกลางก่อนโดยออกแบบลูกเลื่อนใหม่ ให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้สำหรับกระสุนในระดับ .308 ไม่ต้องเผื่อความยาวความหนา สำหรับกระสุนแรงกว่านี้ และกำหนดรูปแบบลูกเลื่อน ให้เหมือนวินเชสเตอร์ โมเดล 70 รุ่นก่อนปี 1964 ที่นักนิยมปืนอเมริกันคลั่งไคล้กันมาก

วินเชสเตอร์ 70 ที่ว่านี้พัฒนาลูกเลื่อนจากเมาเซอร์ 98 เดิม โดยเปลี่ยนห้ามไก พลิกซ้ายขวาที่ท้ายลูกเลื่อนเป็นแบบพับไป ด้านหน้า คือยิงพับมาด้านหลังเข้าห้ามไกอยู่ที่ท้ายลูกเลื่อนด้านขวา ที่คงไว้เหมือนเมาเซอร์เดิมๆคือขอรั้งปลอกขนาดใหญ่ นอกตัวลูกเลื่อน จับท้ายกระสุนตั้งแต่พ้นจากซองกระสุน (ต่างจากแบบขอซ่อนในหน้าลูกเลื่อน ที่จังหวะป้อนกระสุนจะเพียงดัน จานท้าย ขอรั้งยังไม่จับจนกว่ากระสุนจะเข้ารังเพลิงและปิดลูกเลื่อนแล้ว) ขาเตะปลอก ย้ายตำแหน่งหลบปีกขัดกลอน แต่การทำงานเหมือนเดิมเป็นแบบอาศัยแรงกระชากลูกเลื่อน ซึ่งเท่ากับบังคับให้ดึงลูกเลื่อนมาด้านหลังจนสุด แน่ใจได้ว่าเมื่อสลัดปลอก แล้วดันลูกเลื่อนกลับด้านหน้าจะมีกระสุนนัดต่อไปป้อนเข้ารังเพลิงจริงๆ ไม่มีโอกาสผิดพลาดจากการดึงลูกเลื่อนไม่สุดกระสุน ไม่ป้อนปืนลูกเลื่อนที่ใช้ขอรั้งและขาเตะปลอกแบบเมาเซอร์จึงได้รับการยกย่องว่า ไว้ใจได้มากที่สุดสำหรับการใช้งานในสถานการณ์คับขันที่คนยิงน่าจะตื่นเต้นบ้างไม่มากก็น้อย เช่น ปืนทหาร หรือปืนล่าสัตว์ใหญ่อันตราย เป็นต้น

จากไรเฟิลชนวนกลางมาเป็นลูกกรด .22 คิมเบอร์เลิกใช้ลูกเลื่อนแบบเดิมของสิบกว่าปีก่อน เปลี่ยนมาเป็นแบบใหม่หมด ให้เหมือนรุ่นชนวนกลาง โดยยืนยันจะใช้ขอรั้งปลอกและขาเตะปลอกแบบเมาเซอร์ เป็นจุดขายแม้ว่าจะไม่ใช่ปืนสำหรับล่าสัตว์ใหญ่ อันตรายนะครับ และคิมเบอร์ยังต้องการให้ตัวลูกเลื่อนกับปีกขัดกลอนเป็นชิ้นเดียวกัน เมื่อขัดกลอนแล้วจะแน่นสนิทตลอดตัว ลูกเลื่อนไม่มีอาการขยับ ดังนั้น เมื่อปิดลูกเลื่อนเพื่อขัดกลอนตัวลูกเลื่อนด้านหน้าจึงต้องหมุนไปตามบังคับของก้านลูกเลื่อนด้วย แต่ขอรั้งปลอกและเข็มแทงชนวนไม่หมุน

กลุ่มกระสุนทดสอบ

ขอรั้งปลอกที่อยู่ด้านนอก ยึดกับตัวลูกเลื่อนด้วยแหวนสปริงหมุนได้รอบส่วนกลางลูกเลื่อนคล้ายกับแหวนลูกสูบตรงนี้ ผลิตและประกอบยากหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาครับ มีช่องบังคับให้ขอรั้งปลอกอยู่ตรงตำแหน่ง 2-3 นาฬิกาตลอดเวลา (มองจากด้านหลัง) ไม่หมุนตามลูกเลื่อนไปที่วุ่นวาย หน่อยคือเข็มแทงชนวนซึ่งเป็นแบบชิ้นเดียวยาวตลอด ส่วนท้ายที่จะจับกับเซียร์นั้นอยู่ในร่องบังคับย่อมหมุนไม่ได้ ส่วนหน้าที่สอดเข้าเป็นแกนกลางของลูกเลื่อนนั้นโผล่กลางหน้า ลูกเลื่อนพอดีเพราะอยู่ในตำแหน่งแกนหมุนของลูกเลื่อน แต่กระสุนลูกกรดเป็นแบบชนวนริม ถ้าลูกเลื่อนอยู่ในแกนเดียวกับ ลำกล้องย่อมจุดชนวนไม่ได้เพราะเข็มจะสับ เข้ากลางจานท้ายกระสุนครับ

วิธีแก้ปัญหาของคิมเบอร์คือ เจาะช่องทางเดินลูกเลื่อนแบบเยื้องศูนย์สูงจากแนวกลางห้องลูกเลื่อนขึ้นไป 2.8 มม. หรือ ประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นผ่าศูนย์กลางปลอกกระสุนลูกกรดครับ ณ ตำแหน่งนี้เข็มแทงชนวนจะตรงกับผิวปลอกกระสุนทำให้จุดชนวน ที่ขอบจานท้ายได้พอดี การวางลูกเลื่อนเยื้องศูนย์กลางแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ เมาเซอร์เคยทำมาแล้วกับปืนลูกกรดรุ่น 34 ซึ่งเป็นปืนฝึกหัดทหารใช้ลูกเลื่อนเหมือนเมาเซอร์ 98 ย่อส่วนลงมา ใครที่เคยยิงปืนยาวร้าน กองทัพอากาศในงานกาชาดสมัยสามสิบ กว่าปีก่อนอาจจะจำปืนรุ่นนี้ได้

จุดต่อมาคือหน้าลูกเลื่อนที่จะทำหลุมรับจานท้ายกระสุนครับ จากการวางเข็มแทงชนวนกลางหน้าลูกเลื่อนแต่จานท้ายเยื้องศูนย์ และตัวลูกเลื่อนหมุนเมื่อขัดกลอน จึงจำเป็นต้องคว้านหลุมหน้าลูกเลื่อนเป็นสองวงซ้อนเหลื่อมกัน (ดูภาพประกอบ) วงแรกจะตรงกับรูลำกล้องคือตำแหน่งจานท้ายกระสุนเมื่อลูกเลื่อนเปิด และวงที่สองจะเบี่ยงเข้ามาแทนตำแหน่งนี้เมื่อปิดลูกเลื่อน จุดสุดท้าย ขาเตะปลอกครับ ปืนลูกกรดที่ตัวลูกเลื่อนไม่หมุนสามารถวางขาเตะปลอกตายตัวได้ง่ายๆ โดยทั่วไปอยู่ใกล้ กับขอบด้านซ้ายของซองกระสุน แต่เมื่อลูกเลื่อนของคิมเบอร์หมุนตามก้านลูกเลื่อน ก็ต้องใช้ขาเตะปลอกแบบติดสปริงให้พลิก หลบลูกเลื่อนได้ ขาเตะปลอกตัวนี้วางอยู่ ด้านล่างของห้องลูกเลื่อนเยื้องมาทางซ้าย มีสปริงคุมด้านในให้กระดกได้ โดยจำเป็นต้องผ่าแท่งถ่ายแรงรีคอยล์ (recoil lug) ใต้ห้อง ลูกเลื่อนให้ขาเตะปลอกทำงานได้

ที่ผมบรรยายมาละเอียดเป็นพิเศษ ก็เพื่อให้เห็นภาพครับ ว่าคิมเบอร์ตั้งใจทำลูกกรดรุ่นนี้แบบสุดฝีมือ ไม่สนใจมาตรการลดต้นทุนใดๆทั้งสิ้น ไม่มีชิ้นส่วนพลาสติก หรือเหล็กแผ่นปั๊ม ลองมาดูตัวปืนจริงว่าระดับไหนนะครับ

รุ่นที่ห้างฯ สิงห์ทองฯส่งมาให้ทดสอบเป็นรุ่น "เอสวีที" (SVT ย่อจาก Short Varmint/Target คือลำกล้องสั้น สำหรับซุ่มยิงสัตว์เล็กระยะไกล หรือยิงเป้า) ลำกล้องเป็นเหล็กปลอดสนิม อวบหนาเท่าลำกล้องยิงเป้าที่ติดตั้งกับปืนรูเกอร์ 10/22 พอดี ยาว 18 นิ้ว ตรงตลอดไม่มีเทเปอร์ ด้านนอกเซาะร่องลดน้ำหนัก 6 ร่อง แต่ใช้เกลียว 8 เกลียว แทนที่จะเป็น 6 เกลียวเหมือนคนอื่นครับ การติดตั้งลำกล้องเข้ากับห้องลูกเลื่อน ใช้กรรมวิธีเฉพาะตัวอีก คือกลึงโคนลำกล้องส่วนที่จะสอดเข้าโครงให้โตกว่ารูรับอยู่ .002 นิ้ว วางโครงและลำกล้องบนแท่นจับให้ตรงกันพอดี จากนั้นให้ความร้อนกับโครงจนขยายตัวเท่าที่ต้องการแล้วจึงสอดลำกล้องเข้าที่ ระบบนี้แน่นหนามั่นคงมาก เป็นระบบเดียวกับปืนแข่งขันระดับโลก

พานท้ายของคิมเบอร์ เอสวีที เป็นไม้สลับลายอย่างดี สีเทา กระโจมค่อนข้างหนา ส้นติดยางรอง คอปืนตรงแบบปืนยิงเป้า มีแผ่นแนบแก้มสูง ทางห้างฯเลือกตำแหน่ง ตอก ก.ท. ไว้ใต้รางปืนตรงข้างซองกระสุนนะครับ ซึ่งจุดนี้จะช่วยตัดปัญหาการปรับแนว ใต้ท้องพานท้ายให้ขนานกับกระโจม ซึ่งเป็นจุดที่นักยิงปืนพาดแท่นต้องการ เพราะช่วยให้ปืนถอยในแนวตรง ไม่มีอาการลำกล้องกระดก ถ้าตอก ก.ท. ใต้พานท้ายที่เดิมจะยุ่งยากเพราะเมื่อปาดเนื้อไม้ส่วนนี้ออกก็ต้องตอก ก.ท. ใหม่

ถอดพานท้ายออกดูด้านในจะเห็น การวางรางแบบ "เสาค้ำ" หรือพิลลาร์ เบดดิ้ง (pillar bedding) มีปลอกอะลูมินั่ม หุ้มสกรูทั้งสองตัว ลำกล้องลอยตลอด ในส่วนนี้ทำได้ดีมาก ชุดลั่นไกเหมือนของคิมเบอร์เดิมครับ มีสกรูให้ปรับสามตัวคือ ด้านหลังปรับระยะเกาะเซียร์ ด้านหน้าตัวบน เป็นตัวหยุดไก และด้านหน้าตัวล่างเป็นตัวปรับน้ำหนักไก จากโรงงานตั้งไกมา คมดีมาก น้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ ซึ่งสามารถลดได้ถึงครึ่งปอนด์โดยเปลี่ยนสปริงให้บางลง

ตัวลูกเลื่อนถอดง่าย โดยเปิดลูกเลื่อน แล้วกดปุ่มปลดล็อกด้านซ้ายของโครงปืน พร้อมกับดึงลูกเลื่อนออก เมื่อถอดออกมาแล้วให้สังเกตตำแหน่งของขอรั้งปลอกนะครับ ถ้าบิดเคลื่อนไปจากตำแหน่งนี้จะใส่กลับไม่เข้า ดูใต้ท้องลูกเลื่อนมีร่องบังคับทางเดินคล้ายสระ "อา" ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดการหมุนและเบียดเข้าด้านหน้าเมื่อปิดลูกเลื่อนในตำแหน่งสุดท้ายเมื่อปิดลูกเลื่อนนั้น ขอรั้งปลอกจะถ่างออก ถ้าไม่ใช่ร่องบังคับนี้ช่วยในลักษณะลูกเบี้ยวจะปิดลำบาก แต่เมื่อมีร่องตัวนี้ช่วย นอกจากจะทำให้ลูกเลื่อนเดินหน้าหลังและเปิด-ปิดได้นุ่มนวลแล้ว ยังเท่ากับเพิ่มปีกขัดกลอนใต้ท้องลูกเลื่อนอีกหนึ่งตัว ให้ความรู้สึกมั่นคงแน่นหนาดีมากไม่มีหลวมคลอนเลย

ในการยิงทดสอบ ใช้ฐานกล้องของวีเวอร์ (ม.ฮะกีมี) แหวนรัดกล้องเบอร์ริส (ปืนประโยชน์) และกล้องนิคอน (ปืนเทเวศร์) กระสุนอีเลย์ เท็นเอ๊กซ์, อีเลย์ คลับ, ซีซีไอ และวินเชสเตอร์ T22 การป้อนกระสุนจากซองกระสุน สี่นัดแรกเรียบร้อยดี นัดสุดท้ายไม่ค่อยลื่นครับ ซึ่งสำหรับปืนยิงเป้าแข่งจริงๆ แล้วนักกีฬามักบรรจุทีละนัดมากกว่า รังเพลิงเป็นแบบยิงเป้า เมื่อป้อนกระสุนแล้วหัวกระสุนจะจับถึงเกลียว ซึ่งขอรั้งของคิมเบอร์ ยังดึงกลับออกมาได้สบายมาก สันพานท้ายไม่สูงเกินไปสำหรับติดกล้องยิง ให้ความรู้สึกดีมาก ความแม่นยำใช้แข่งปืนพาดแท่นได้ โดยต้องปรับถ่วงลำกล้องบ้างให้เหมาะกับกระสุนครับ

โดยสรุปสำหรับ คิมเบอร์ เอสวีที เป็นลูกกรดระดับสุดยอดที่ไม่น่าจะมีเข้ามาบ่อยนักครับ ท่านที่นิยมปืนระดับสุดฝีมือช่าง ลองมาดูรายละเอียดความพิเศษของปืนกระบอกนี้ได้ที่ห้างฯ สิงห์ทองไฟร์อาร์มครับ ด้านความแม่นยำใช้แข่งพาดยิงได้โดยปรับ แต่งน้อยมาก ทางห้างตั้งราคาไว้ห้าหมื่น กลางๆ.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 321 กรกฎาคม 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com