เอสพี 101 ขนาดลูกกรด
ผู้รื้อฟื้นความหลังของปืนลูกโม่
รูเกอร์

ท่ามกลางกระแสความนิยมกีฬายิงปืน ที่ใช้กระสุนลูกกรดขนาด .22 แอลอาร์ในบ้านเรา มีปืนหลายแบบหลายยี่ห้อที่นักกีฬา ปืนนำมาใช้กัน ในจำนวนนี้ก็มีชื่อปืนรูเกอร์อยู่ด้วย แต่ไม่ทราบเหตุผลกลใด พอพูดถึง ปืนภายใต้แบรนด์เนมว่า "รูเกอร์" ผู้คนมักคิดถึงปืนไรเฟิลทาร์เก็ต 10/22 ที่บ้านเรานิยมกันมาก หรือบางคนอาจเลยไปนึกถึงปืนออโตมาร์คทู ที่เป็นขวัญใจของพ่อ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และอันโตนิโอ บันเดอราส ในภาพยนตร์สุดมันเรื่อง ASSASSINS มหาประลัยตัดมหาประลัย อาจไม่มีใครรู้ว่า รูเกอร์เขามีปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุน แบบลูกกรดกับเขาด้วยทั้งๆที่ปืนกระบอกนี้ก็เป็นสุดยอดในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านความแข็งแรงทนทาน ชื่อเสียงในด้านปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุนแบบลูกกรดของรูเกอร์ ไม่ถึงกับดังกระฉ่อนนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วปืนดังกล่าวไม่ด้อยกว่าใครเลย เมื่อเทียบกันออนซ์ต่อออนซ์

รูเกอร์ เอสพี 101 ขนาด .22 แอลอาร์ 2 กระบอก ขนาดลำกล้อง 4 นิ้ว ได้รับความ เอื้อเฟื้อจากคุณสุจินต์ รัศมีอุทัย ส่วนขนาด ลำกล้อง 2 1/2 นิ้ว เป็นของหวงของคุณ ธวัชชัย เต็มถาวรกุล

มองดูด้านขวาเต็มๆ หลายคนเข้าใจ ผิดว่าเป็นปืนขนาด .357 แม็กนั่ม

รูเกอร์ เริ่มผลิตปืนสั้นให้ใช้กับกระสุนขนาดลูกกรดก่อนในปืนแบบซิงเกิลแอ๊คชั่น ได้แก่รุ่นซิงเกิลซิกส์ในปี ค.ศ.1953 ส่วนในแบบปืนสั้นระบบดับเบิลแอ๊คชั่นที่ใช้กระสุน ขนาดนี้ก็เพิ่งมาผลิตเอาในปี 1988 นี่เอง โดยการนำเอารูปแบบของปืนรุ่นซีเคียวริตี้ ซิกส์ ซึ่งเป็นปืนดับเบิลแอ๊คชั่นเช่นกันแต่ใช้กระสุนขนาด .38 สเปเชียล และ .357 แม็กนั่ม มาประสมประสานกับปืนรุ่นเรดฮอว์ก ที่ใช้กระสุนขนาด .41 แม็กนั่มและ .44 แม็กนั่ม จนได้ปืนกระบอกใหม่เรียกชื่อว่า เอสพี 101 และปืนกระบอกนี้เองที่ถือว่าเป็นปืนแบบ ดับเบิลแอ๊คชั่นกระบอกแรกของรูเกอร์ที่ใช้กระสุนแบบลูกกรด ปืนเอสพี 101 แม้ว่าจะใช้ลูกขนาด .22 แอลอาร์ แต่ก็มีความแข็งแรงเกินตัว ขนาดที่ว่าหากเปลี่ยนโม่เปลี่ยนลำกล้องไป ยิงลูก .357 แม็กนั่มก็จะสามารถกระทำได้อย่างสบายๆ เพราะโครงปืนมีความแข็งแรงมาก ทั้งอวบและหนา เรียกได้ว่าสามารถรับแรงกระแทกของกระสุนแรงๆได้ดีเยี่ยม ใครเห็นปืนกระบอกนี้ถ้าไม่ดูให้ชัดๆ ก็คงต้องนึกว่าเป็นปืนขนาด .38 สเปเชียล หรือ .357 แม็กนั่มอย่างแน่นอน

สันลำกล้องแบนเรียบ เน้นความ เรียบง่ายแต่แข็งแรง

ศูนย์หลัง มีใบศูนย์ฝังในโครงปืน ปรับได้เฉพาะซ้าย-ขวาเท่านั้น ศูนย์หน้าแบบลิ่ม วางบนสันลำกล้อง

ในระยะแรกที่รูเกอร์ผลิตปืนเอสพี 101 ขนาด .22 แอลอาร์ออกมา รูเกอร์เขาเลือกเหล็กสเตนเลสส์ชั้นเยี่ยม ได้แก่ สเตนเลสส์ ซีรีส์ 400 มาใช้ผลิตโลหะชนิดนี้ มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ การขัดผิวปืนเขามีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบมันวาว ที่ฝรั่งเรียกว่า HIGH - GLOSS กับแบบไม่เงานัก แต่ไม่ถึงกันด้าน ถ้าใครอยากรู้ว่าปืน ของท่านเป็นแบบมันวาวหรือไม่วาวก็ดูที่เลขแคตตาล็อกปืน ถ้ามีอักษร "G" อยู่หน้าเลข แคตตาล็อกก็คือมันวาว นอกจากนั้นเอสพี 101 ลูกกรด ยังมีลำกล้องให้เลือก 2 แบบ ด้วย คือขนาดลำกล้องยาว 2 1/4 และ 4 นิ้ว ทั้งหมดเป็นลำกล้องที่มีฝักหุ้มก้าน คัดปลอกยาวตลอดถึงปลายลำกล้อง ยกเว้นอยู่รุ่นเดียว คือ รุ่นที่มีลำกล้องยาว 4 นิ้ว จะมีลำกล้องประเภทที่ไม่มีฝักหุ้มก้านคัดปลอกอยู่ด้วย แต่ละขนาดความยาวลำกล้อง จะมีเลขแคตตาล็อกต่างกัน กล่าวคือลำกล้อง 2 1/4 นิ้ว มีเลขแคตตาล็อก KSP-221 ในขณะที่ลำกล้อง 4 นิ้ว มีเลขแคตตาล็อก KSP-241 สำหรับลำกล้อง 4 นิ้ว ที่ไม่มีฝักหุ้มก้านคัดปลอกจะมีเลขแคตตาล็อก KSP-240 แต่ละรุ่นที่กล่าวมาจะมีแบบที่ขัดผิวโลหะแบบมันวาวอยู่ด้วยทุกรุ่น ในปัจจุบันรูเกอร์ผลิต เอสพี 101 มาเฉพาะรุ่น KSP-241 เท่านั้น ฉะนั้นจึงขอแสดงความยินดี กับผู้ที่ครอบครองปืนรุ่นอื่นที่ไม่ใช่รุ่น KSP-241 ด้วยครับ เนื่องจากว่าปืนของท่านได้กลายเป็นปืนสะสมไปแล้ว

การถอดประกอบ เริ่มจากการถอดแก้มพลาสติกที่ประกับด้ามออก และถอดประกับด้ามยางออก โปรดสังเกตเหล็กชิ้นเล็กๆ วางอยู่ในช่องด้ามยาง -ต้องถอดเหล็กนี้ออกก่อน ที่จะถอดนกสับและชุดลั่นไกต่อไป -เอาแกนเหล็กอันเล็กใช้สอดเข้าใน ช่องด้านล่างของแกนสปริง (การถอดชิ้นส่วนทั้งหมดไม่ได้แสดงให้ดู เพราะเจ้าของปืนมีความกังวลใจมากในเรื่อง การถอดประกอบ)

นอกจากเรื่องโลหะที่นำมาทำปืนที่รูเกอร์เลือกสรรมาให้แข็งแรงเป็นพิเศษแล้ว รูเกอร์ยังมีระบบล็อกโม่ด้านหน้า และการเลือกตำแหน่งตีนผีเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรง ด้วยระบบล็อกโม่ของปืนโดยทั่วไปจะอยู่ที่ด้านหลังแกนลูกโม่ที่มีปุ่มยึดเข้ากับโครงโม่ รวมทั้งจะอยู่ที่ปลายก้านคัดปลอกด้านหน้าโม่ ที่จะมีสลักยึดกับฝักหุ้มก้านคัดปลอก แต่ สำหรับปืนรูเกอร์เขายกเลิกระบบล็อกโม่ที่ปลายก้านคัดปลอกด้านหน้าโม่เสีย และทำสลักตัวหนึ่งไว้ที่บานพับโม่ สลักตัวนี้ด้านในจะมีสปริงดันไว้ตลอดเวลา เมื่อปิดโม่เจ้าสลักตัวนี้จะสอดเข้าไปในช่องสลักที่โครงปืนใต้ลำกล้อง ช่วยล็อกโม่ได้แน่นอนกว่าที่ปลายก้านคัดปลอก ฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ก้านคัดปลอกของปืนรูเกอร์เอสพี 101 นี้จะวางตัวอยู่ลอยๆ โดยที่ส่วนปลายไม่มีปุ่มยึดเข้ากับฝักหุ้มก้านคัดปลอกและทำหน้าที่เป็นตัวล็อกโม่เช่นปืนทั่วไป อีกจุดหนี่งที่จะเพิ่มความแข็งแรงให้กับปืนรูเกอร์นั้นอยู่ที่ตีนผีครับ ปกติตีนผีของ ปืนทั่วไปมักจะอยู่บริเวณกึ่งกลางโครงโม่ด้านล่าง ในตำแหน่งนี้ช่องรับตีนผีจะต้องเจาะไว้ ที่ลูกโม่จะต้องอยู่ที่กึ่งกลางช่องโม่ ซึ่งเป็นส่วนที่บางของผนังโม่ ฉะนั้นการที่รูเกอร์เขาทำตีนผีไว้เยื้องไปทางด้านขวาของโครงโม่ ก็จะทำให้ช่องรับตีนผีจะอยู่ในตำแหน่งที่ผนังโม่มีความหนา เพราะไม่ได้อยู่ตรงกึ่งกลางช่องโม่

ปืนเอสพี 101 เป็นปืนโครงขนาดเล็ก ซึ่งมีเอกลักษณ์ของปืนรูเกอร์ไว้ครบครัน กล่าวคือมีโครงปืนหนาทึบแข็งแรง ไม่มีแผ่นประกับข้างหรือไซด์เพลท ชุดลั่นไกและนกสับถอดประกอบเข้าทางช่องด้านล่างและด้านบนของปืนตามลำดับ นอกจากนั้นยังใช้ระบบทรานสเฟอบาร์ที่ตนเองเป็นเจ้าตำรับ และบัญญัติคำๆนี้ออกมา ในส่วนการประกอบ ชิ้นส่วนต่างๆนั้น เอสพี 101 มีความประณีตบรรจงมาก มีการพิมพ์ซีเรียลนัมเบอร์ของปืนไว้ที่โครงปืนใต้กรอบโม่ เพื่อความสะดวกในการจดทะเบียน

อ๊อด บ้านโป่ง ผู้ทดสอบ ยืนยิง 2 มือ ระยะ 15 เมตร

กลุ่มกระสุนของผู้ทดสอบ กลุ่มขวาเล็ง แบบนั่งแท่น กลุ่มซ้ายเล็งแบบจี้

อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้นว่า รูเกอร์เป็นปืนรีวอลเวอร์ที่ไม่มีไซด์เพลท ฉะนั้นเมื่อต้องการเปิดดูความเรียบร้อยและทำความสะอาดชิ้นส่วนภายในก็จะต้องดำเนินการด้วย วิธีพิเศษ แต่ไม่ถึงกับซับซ้อนอะไร และไม่ต้องการเครื่องมือพิเศษใดๆ นอกเหนือจากไขควงที่ใช้ถอดสกรูยึดประกับด้ามเพียงตัวเดียวเท่านั้น การถอดชิ้นส่วนต่างๆของปืน เริ่มจากถอดสกรูประกับด้ามออกและเอาแผ่นไฟเบอร์ที่ประกบบนด้ามออกอีกที จะพบว่าในแผ่นประกับด้ามมีพินซ่อนอยู่หนึ่งตัว จากนั้นดึงแผ่นประกับด้ามออกจากโครงด้าม ง้างนกไว้เพื่อให้สปริงนกสับหดตัว และเอาพินตัวที่เห็นในแผ่นประกับสอดที่ช่องด้านล่าง ของแกนสปริงนกสับที่เป็นสปริงตัวหนอน เมื่อเหนี่ยวไกลดนกลงสปริงนกสับจะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย

ขั้นต่อไปถอดนกสับ เอาสกรูด้ามยันสลักแกนนกสับที่เห็นตรงช่องกลางโครงปืน จากด้านซ้ายออกมาด้านขวา แล้วเหนี่ยวไกอุบไว้ ค่อยๆยกนกสับขึ้นข้างบนจนหลุดจากโครง จากนั้นเอาแกนสปริงนกสับกดสปริงล็อกชุดลั่นไกที่อยู่ตรงด้านหลังโกร่งไก พอล็อกหลุดก็ดึงโกร่งไกลงทางด้านล่างชุดลั่นไก ที่อยู่เหนือโกร่งไกจะหลุดออกมาพร้อมกับโม่ ที่ถอดออกได้พร้อมๆกัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการถอด การประกอบกลับส่วนใหญ่ไม่มีอะไรซับซ้อน ก่อนการประกอบกลับก็สำรวจว่า อะไรมันเข้าที่เข้าทางก็ย้อนทางเดิน ส่วนที่ต้องดูพิเศษคือตรงหน้าโกร่งไกจะมีแง่สำหรับ สอดเข้าร่องบากใต้โครงปืนด้านหน้า เวลาประกอบชุดลั่นไก จึงต้องสอดแง่ให้เข้ากับร่องก่อน จากนั้นจึงค่อยกดส่วนท้ายเข้าจนสนิท ในขณะที่กดส่วนท้ายนี้ บางครั้งอาจรู้สึกลำบากอยู่บ้าง เนื่องจากตัวทรานสเฟอบาร์จะไปติดกับชิ้นส่วนภายในโครงปืน จึงต้องใช้ไขควงเขี่ยให้เข้าที่เข้าทางแล้วจึงจะดันให้เข้าที่ได้ นอกจากนั้นการประกอบนกสับต้องมองตรงช่องสอดสลักแกนนกสับดูว่านกสับอยู่ในแนวตรง แล้วจึงค่อยๆ สอดสลักเข้าไป อย่าออกแรงดันสลักเข้าไปแรงๆครับ ปืนกระบอกนี้ชอบความนิ่มนวล

สำหรับปืนเอสพี 101 ที่นำมาพูดคุยในวันนี้เป็นปืนที่สุดรักสุดหวงของคุณสุจินต์ รัศมีอุทัย เป็นปืนลำกล้อง 4 นิ้ว ศูนย์หน้า แบบลิ่มฝังในสันหลังลำกล้อง โม่บรรจุ 6 นัด หลังช่องโม่เจียนเป็นหลุมเพื่อรับจานท้ายปลอกกระสุน ศูนย์หลังปรับได้เฉพาะซ้าย-ขวาเท่านั้น ประกับด้ามเป็นยางสีดำล้วน เมื่อนำปืนมาตรวจสอบดูรู้สึกว่าเจ้าของคงรัก ถนอมปืนกระบอกนี้จริงๆ เพราะน้ำหนักไกของปืนยังน่าจะเป็นแบบเดิมๆจากโรงงาน คือ น้ำหนักไกซิงเกิลและดับเบิลอยู่ในระดับมาตรฐาน การยิงทดสอบเราใช้การยิงในระยะ 15 เมตร มีลูกกระสุนให้เลือก 3 แบบ คือลูก CCI ลูก ELEY และลูก WINCHESTER ผู้ทดสอบเริ่มยิงก่อนโดยใช้ลูก CCI และใช้การเล็งนั่งแท่น ผลปรากฏว่ากลุ่มกระสุนอยู่ในวงแปด-เก้า ที่ 12 นาฬิกา จากนั้นจึงเล็งแบบจี้ กลุ่มกระสุนจึงต่ำลงมาอยู่ที่วงเอ๊กซ์กับวงสิบ ระบบไกมีแบบสองจังหวะเช่นเดียวกับสมิธฯ ผู้ผลิตปืนชาติเดียวกัน การคัดปลอกฉลุยดีไม่มีติดขัด

ปืนกระบอกนี้เจ้าของ คือ คุณสุจินต์ รัศมีอุทัย เขาย้ำนักย้ำหนาว่าหวงจริง และจากการดูสภาพและยิงทดสอบ ก็เป็นปืนที่แข็งแรง เรียกได้ว่าอยู่ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน นอกจากนั้นยังมีความแม่นยำและสมควรกับที่เจ้าของเขาหวงจริงๆ อย่างไรเสียชาวปืน ก็อย่าลืมปืนลูกกรดของรูเกอร์ที่เป็นปืนลูกโม่กระบอกนี้ เพราะตอนนี้เอสพี 101 ไม่ใช่ปืนลูกโม่ธรรมดาๆแล้ว แต่ได้กลายเป็นปืนสะสม และอาจเรียกได้ว่าได้กลายเป็นตำนานแห่งปืนลูกโม่สมัยใหม่ไปเสียแล้ว.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 320 มิถุนายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com